นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ในสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยเป็นหลัก (2P Safety) โดยได้จัดสรรงบประมาณและจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ได้แก่ หน้ากากอนามัย N95 หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ชุด PPE เพื่อกระจายให้กับบุคลากรทางการแพทย์ทั้งประเทศมีใช้อย่างเพียงพอ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริมกิจการภายในประเทศ โดยให้สั่งซื้อสิ่งของจากต่างประเทศให้น้อยที่สุดและสนับสนุนกิจการของคนไทยเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งแนวคิดนี้เป็นที่มาสำคัญของการพัฒนานวัตกรรมชุด PPE (Isolation Gown) รุ่น "เราสู้" ซึ่งเป็นความร่วมมือของคนไทย ทั้งภาครัฐและเอกชนหลายองค์กร ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา องค์การเภสัชกรรม กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์บริการ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ และมีผู้ประกอบการผลิตอีก 13 บริษัทเข้าร่วมดำเนินการ ซึ่งทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าเป็นภารกิจของคนไทยที่จะร่วมกันสู้กับการระบาดของโควิด-19 นี้ไปกับบุคลากรทางการแพทย์และคนไทยทุกคน
นายอนุทิน กล่าวว่า มีรายงานว่ากว่าโรคจะยุติการระบาด ต้องใช้ชุด PPE ถึง 20 ล้านชุด หากมีราคาชุดละ 500 บาท แล้วต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เราต้องใช้เงินถึง 1 หมื่นล้านบาท เป็นเงิน 1 หมื่นล้านบาทที่เอาไปให้ต่างชาติ แต่เมื่อเราผลิตเองได้ เราจะประหยัดเงินจำนวนนี้ เป็นเงินมากพอที่นำไปใช้ในการสร้างโรงงานวัคซีนได้เลย ซึ่งเรื่องการผลิตวัคซีน เราก็ผลักดันอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
ด้านนายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นวัตกรรม ชุด PPE (Isolation Gown) รุ่น เราสู้ เป็นชุดแบบเสื้อคลุมแขนยาวกันน้ำชนิดใช้ซ้ำได้ (Reusable Isolation Gown) สามารถซักและใช้ซ้ำได้ไม่น้อยกว่า 20 ครั้ง โดยได้ผลิตล็อตแรก จำนวน 44,000 ชุด และเริ่มทยอยส่งมอบให้องค์การเภสัชกรรมจนครบภายในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากนั้นจะส่งมอบให้ศูนย์ปฏิบัติการกระจายเวชภัณฑ์ ดำเนินการจัดสรรและกระจายให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถทดแทนแบบ Isolation Gown ที่ต้องสั่งนำเข้ากว่า 800,000 ชุด นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข โดย อย. ได้ดำเนินการตรวจสถานที่ผลิตและอนุญาตให้ทั้ง 13 บริษัท ดำเนินการผลิตชุด Isolation Gown รุ่น เราสู้ เพื่อให้เพียงพอและทดแทนการนำเข้า