นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 3,004 ราย ขณะที่มีผู้ที่หายป่วยเพิ่มขึ้น 3 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ที่หายป่วยแล้วรวมทั้งสิ้น 2,787 ราย โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 56 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 4 ราย เป็นผู้ป่วยสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า 1 ราย มีประวัติเสี่ยงจากการไป/ทำงานในสถานที่ชุมชน 1 ราย และจากการค้นหาเชิงรุกในจ.ยะลา 2 ราย (เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันจากมาเลเซีย)
ส่วนผู้เสียชีวิต 1 รายวันนี้ เป็นชายไทย อายุ 68 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว เริ่มมีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ หายใจลำบากเมื่อ 19 มี.ค. เข้ารับการรักษา รพ.แห่งหนึ่งใน กทม.ส่งตรวจเชื้อยืนยันเป็นผู้ป่วยโควิด-19 เมื่อ 22 มี.ค. ต่อมามีภาวะแทรกซ้อน ติดเชื้อในกระแสเลือด ไตวาย และเสียชีวิตวันที่ 9 พ.ค.
สำหรับรายงานผู้ป่วยรายจังหวัด พบ 24 จังหวัด มีรายงานผู้ป่วยช่วง 28 วัน, 44 จังหวัด ไม่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 28 วัน, 10 จังหวัด กลุ่มไม่พบผู้ป่วยมาก่อน
จำนวนผู้ป่วยยืนยันจำแนกตามพื้นที่รักษา กรุงเทพฯและนนทบุรี 1,700 ราย ภาคเหนือ 94 ราย ภาคกลาง 381 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 ราย ภาคใต้ 718 ราย
ในส่วนคนไทยกลับจากต่างประเทศ ใน 1 สัปดาห์ข้างหน้า วันที่ 10 พ.ค.มี 3 เที่ยวบิน จากไต้หวัน สหรัฐฯ ญี่ป่น วันที่ 11 พ.ค. 2 เที่ยวบิน จากอินเดีย ญี่ปุ่น วันที่ 12 พ.ค. 2 เที่ยวบิน จากสหรัฐฯ รัสเซีย ภูฏาน วันที่ 13 พ.ค. 2 เที่ยวบิน จากฟิลิปปินส์ อินเดีย วันที่ 14 พ.ค. 2 เที่ยวบิน จากเยอรมนี บังกลาเทศ และวันที่ 15 พ.ค. 2 เที่ยวบิน จากสิงคโปร์ บาห์เรน
ด้านข้อมูลสถานการณ์ผู้เดินทางเข้าประเทศที่ต้องกักตัวใน State Quarantine/Local Quarantine ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.- 8 พ.ค. ยอดสะสมอยู่ที่ 15,069 ราย กลับบ้านได้แล้ว 5,661 ราย พบเชื้อสะสม 87 ราย
ด้านความมั่นคง พบการฝ่าฝืนคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถาน และห้ามรวมกลุ่มชุมนุมหรือมั่วสุม ลดลง ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดี
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 4,012,848 ราย เสียชีวิต 276,216 ราย โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จำนวน 1,321,785 ราย อันดับ 2 สเปน จำนวน 260,117 ราย อันดับ 3 อิตาลี จำนวน 217,185 ราย อันดับ 4 อังกฤษ จำนวน 211,364 ราย และ อัดับ 5 รัสเซีย จำนวน 187,859 ราย สำหรับประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 66 จำนวน 3,004 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงความคืบหน้าการคลายล็อกระยะ 2 ว่า ตามตามไทม์ไลน์ จะเปิดรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 8-12 พ.ค. จากนั้นวันที่ 13 พ.ค. ประเมินผลระยะที่ 1 ก่อน และวันที่ 14-15 พ.ค. ยกร่างข้อกำหนดสู่ระยะที่ 2
"ในการประชุม ศบค.ชุดเล็ก เมื่อเช้า ได้ยกร่างฯ ขึ้นมา จัดทำ SANDBOX หากลุ่มตัวอย่างพื้นที่ทดลองเปิด เช่น ห้างสรรพสินค้าทดลองเปิดแห่งหนึ่ง เพื่อมาดูว่า มาตรการในห้างสรรพสินค้าเป็นอย่างไร ประชาชนต้องปฏิบัติตัวอย่างไร และมีการประเมินผลวันที่ 16 พ.ค. ถ้าผ่านวันที่ 17 พ.ค. ก็จะประกาศเริ่มระยะที่ 2 แต่รายละเอียดยังมีอีกมาก ต้องรอการหารือจากทุกภาคส่วน อาทิ สาธารณสุข ฝ่ายมั่นคง และภาคเอกชน เพราะต้องมั่นใจว่าถ้าเปิดขึ้นมาจะไม่ทำให้ตัวเลขติดเชื้อต่างๆเพิ่มขึ้น