นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และคณะผู้บริหาร ได้เดินทางไปจ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจเยี่ยมความพร้อมการบูรณาการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด 19 ของโรงพยาบาลสันกำแพง โรงพยาบาลปราสาท และโรงพยาบาลสนามที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 5 ธันวา 2554 ว่า ระบบสาธารณสุขในการดูแลผู้ป่วยโควิด 19 ในจ.เชียงใหม่ ได้บูรณาการเชื่อมโยงกันเป็นระบบตั้งแต่การคัดกรองผู้ป่วย การรักษา จนถึงส่งตัวกลับบ้านหรือชุมชน มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสันกำแพงทำหน้าที่เป็นโรงพยาบาลเฉพาะโรคโควิด 19 ประจำจังหวัดเพื่อรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อ แต่หากอาการวิกฤติจะมีโรงพยาบาลรองรับทั้งโรงพยาบาลนครพิงค์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และยังมีหอผู้ป่วยวิกฤติที่เป็นความร่วมมือกันระหว่างโรงพยาบาลประสาท กรมการแพทย์ กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมีเตียง ICU รองรับจำนวน 22 เตียง
ส่วนกลุ่มผู้ติดเชื้อที่อาการไม่รุนแรง ได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามขนาด 280 เตียง โดยใช้ศูนย์ประชุมนานาชาติ จ.เชียงใหม่ เพื่อดูแลผู้ป่วยในระยะแรก เริ่มเปิดดำเนินการในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ สามารถขยายได้ถึง 1,000 เตียงหากพบการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในระลอกสอง โรงพยาบาลสนามแห่งนี้เกิดจากความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน และประชาชนผู้มีจิตศรัทธา เชื่อว่าจะรองรับระบบการดูแลผู้ป่วยในจังหวัดเชียงใหม่เพื่อแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลอื่นๆ ในจังหวัดได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ เชียงใหม่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญระดับโลกและเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญในภาคเหนือ มีนโยบายดำเนินการควบคุมการระบาดได้เป็นอย่างดี มาถึงวันนี้เป็นเวลา 35 วันแล้วที่ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ประสบการณ์ที่ได้จากการจัดการควบคุมป้องกันและรักษาโรคในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่าจะนำไปต่อยอดให้ระบบสาธารณสุขของจังหวัดเชียงใหม่พร้อมรับมือหากมีการระบาดระลอกสองเกิดขึ้น ดังนั้นหากมองอีกมุมจะเห็นว่าวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่จะสร้างความเชื่อมั่นด้านระบบสาธารณสุขของประทศไทย ว่ามีมาตรฐานได้รับการยอมรับในระดับสากล