นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เกณฑ์ในการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 2 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ยังคงยึดเกณฑ์เดิมที่ใช้กับการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 1 เป็นหลัก ซึ่งขณะนี้ครบ 2 สัปดาห์แล้ว โดยเกณฑ์เดิม ได้แก่ โอกาสเสี่ยงของบุคคล เช่น กลุ่มคนที่อยู่บ้าน หรือกลุ่มคนที่ต้องเดินทาง โอกาสเสี่ยงสถานที่ เช่น ตลาดและห้างสรรพสินค้า และโอกาสเสี่ยงแต่ละกิจกรรม เช่น บางกิจกรรม หากทำเพียง 5-10 คน บางทีมีโอกาสเสี่ยง แต่บางทีก็ไม่มี เป็นต้น
ทั้งนี้จะนำตัวเลขด้านสาธารณสุข ทั้งผู้ป่วยสะสม ผู้ป่วยกลับบ้าน ผู้เสียชีวิต มาเป็นดัชนีชี้วัดในการผ่อนคลายมาตรการบางกิจกรรมและกิจการ แต่ยังมีสิ่งที่ไม่สบายใจและไม่สามารถผ่อนคลายได้ทั้งหมด เช่น การละเมิดเคอร์ฟิว การเดินทางข้ามจังหวัด จำนวนผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศที่ยังมีจำนวนมากอยู่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ไม่สามารถผ่อนคลายมาตรการได้ทั้งหมด ส่วนที่ผู้ประกอบการขอขยายเวลาเคอร์ฟิวจากเดิม 22.00-04.00 น.นั้น ศบค.ชุดเล็กกำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่
ส่วนการผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 2 จะมีการผ่อนปรนบางมาตรการของรัฐบาลหรือไม่นั้น นายวิษณุ ยอมรับว่า อาจมีการผ่อนปรนในบางเรื่องก็ได้ ซึ่งเดิมรัฐบาลได้กำหนดไว้ ทั้งเรื่องการขอความร่วมมืองดเดินทางข้ามจังหวัด การห้ามเปิดน่านฟ้า งดกิจกรรมในคนหมู่มาก แต่ต้องรอการพิจารณาจาก ศบค.อีกครั้ง
นายวิษณุ กล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะมาพูดเรื่องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะการแก้ปัญหาหลายอย่างจำเป็นต้องมารวมที่รัฐบาล เพราะสามารถสั่งการไปยังทุกจังหวัดได้ และสามารถเยียวยาผลกระทบที่จะตามมาได้ทั่วถึง ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบางครั้งไม่มีอำนาจตรงจุดนี้