นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.เป็นประธานการประชุมในวันนี้ เห็นชอบให้ปรับเวลาการห้ามออกนอกเคหะสถาน (เคอร์ฟิว) เป็น 23.00-04.00 น. จากเดิม 22.00-04.00 น.
พร้อมกันนี้ จะมีการผ่อนคลายมาตรการในกิจการ/กิจกรรมประเภทต่างๆ เพิ่มเติม เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น เพียงแต่จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลตามมาตรฐานทางด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวดต่อไป
ด้านนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า ในการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 2 นี้ จะอนุญาตให้ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าต่างๆ เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.จากที่ผู้ประกอบการขอมาที่เวลา 10.00-21.00 น. โดยเห็นว่าการเปิดห้างฯ จนถึงเวลา 21.00 น.อาจส่งผลกระทบต่อการเดินทางของพนักงานและประชาชนที่ต้องกลับเข้าเคหะสถานภายในเวลา 23.00 น.แต่ย้ำว่ามาตรการตรวจคัดกรองผู้เข้ามาใช้บริการต้องมีความเข้มงวด ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ จัดให้มีเจลล้างมือ รวมถึงกำหนดจำนวนและเวลาเข้าใช้บริการ เป็นต้น
สำหรับการผ่อนคลายมาตรการให้แก่กองถ่ายนั้น จะต้องมีการลงทะเบียนกับกระทรวงวัฒนธรรมก่อน เพื่อแจ้งรายชื่อและจำนวนของผู้ร่วมงาน รวมทั้งขอความร่วมมือให้งดฉากที่จะมีการสัมผัสใกล้ชิด เช่น การต่อสู้ หรือฉากเลิฟซิน โดยขอให้ใช้มุมกล้องแทน
"การผ่อนคลายมาตรการระยะ 2 เพราะสาธารณสุขประเมินแล้ว เห็นว่าสถานการณ์ค่อนข้างดี แต่ยังคงต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าถ้าผ่อนคลายมากไปจะเกิดผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มอีก" รมว.วัฒนธรรม กล่าว
พร้อมระบุว่า จากการตรวจสอบสถานประกอบการต่างๆ ในทั่วประเทศนั้น เจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นจะลงไปดูแล หากพบสถานประกอบการ หรือห้างร้านใดที่ฝ่าฝืนข้อปฏิบัติจะสามารถสั่งปิดได้ทันทีตามกฎหมายที่ได้ให้อำนาจไว้ อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาพบว่ากิจการส่วนใหญ่ 70% ปฏิบัติตามข้อกำหนดของทางการ ส่วนที่มีปัญหาเป็นเพียงร้านอาหารขนาดเล็กที่มีปัญหาเรื่องการเว้นระยะห่าง
นายอิทธิพล ยังเปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.วันนี้ให้ชะลอมาตรการเปิดเมืองของ จ.ภูเก็ต ที่กำหนดจะเริ่มขึ้นในวันที่ 16 พ.ค. โดย ศบค.จะนำเรื่องดังกล่าวมาพิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า