นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ สทนช.เร่งดำเนินการตั้งคณะทำงานกำหนดพื้นที่พัฒนาน้ำบาดาล เพื่อทำหน้าที่พิจารณาวิเคราะห์ปริมาณน้ำบาดาล กำหนดแนวทางการพัฒนาหลักเกณฑ์การขุดเจาะน้ำบาดาล ตลอดจนการบริหารศักยภาพน้ำบาดาลในภาพรวม การกำหนดพื้นที่พัฒนาให้สอดคล้องกับศักยภาพน้ำบาดาล และเป้าหมายตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (61-80) เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาลเกิดประโยชน์สูงสุดและยั่งยืน โดยคณะทำงานชุดดังกล่าว ประกอบด้วย กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กองทัพบก หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กรมการทหารช่าง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 14 หน่วยงาน รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิ
สำหรับการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำช่วงฤดูแล้งปี 2562/63 ที่ผ่านมา โครงการขุดเจาะน้ำบาดาลมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเป็นอย่างมาก ซึ่งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ม.ค.63 และวันที่ 17 มี.ค.63 ได้เห็นชอบให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้แก่ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล การประปาส่วนภูมิภาค กรมการข้าว กองทัพบก และหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ดำเนินโครงการขุดเจาะน้ำบาดาล เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวรวม 1,297 โครงการ ได้ปริมาณน้ำบาดาลเพิ่มขึ้น 11.11 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)
เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า จากรายงานการติดตามสถานการณ์น้ำบาดาลในประเทศไทยปี 2562 ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 58-62 จากการจัดทำบ่อสังเกตการณ์น้ำบาดาลจำนวน 2,506 บ่อทั่วประเทศ โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พบว่า ปัจจุบันหลายพื้นที่มีปริมาณน้ำลดลงเนื่องจากที่ผ่านมามีการใช้น้ำบาดาลค่อนข้างมาก ทำให้ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในชั้นน้ำบาดาลมีแนวโน้มลดลงหลายพื้นที่ เช่น ภาคเหนือที่บริเวณพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน ภาคกลางตอนบนและภาคกลางตอนล่างหลายพื้นที่ เช่น จังหวัดพิจิตร ชัยนาท และสุพรรณบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่น้ำบาดาลลดลงกระจายเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ชุมชนและแหล่งอุตสาหกรรม ภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดชลบุรีและระยอง และภาคใต้ในพื้นที่จังหวัดสงขลา นอกจากนั้นการขุดเจาะบ่อบาดาลและการนำน้ำขึ้นมาใช้ประโยชน์อาจเกิดการสูญเปล่าด้านพลังงานและงบประมาณที่ต้องมีความชัดเจน
การจัดตั้งคณะทำงานกำหนดพื้นที่พัฒนาน้ำบาดาลในครั้งนี้จะนำข้อมูลทางวิชาการดังกล่าวและข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาประกอบการวางแผนการบริหารจัดการ การกำหนดพื้นที่ขุดเจาะน้ำบาดาล การฟื้นฟูสภาพแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่เฝ้าระวังให้กลับมามีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น โดยเป็นการกำหนดกรอบแนวทางการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานร่วมกัน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาในระยะต่อไปเป็นไปอย่างยั่งยืนและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สอดคล้องกับพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ.2520 และแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปีด้วย