พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 8 ราย จาก State Quarantine ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ
สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,112 ราย จำนวนผู้ป่วยรักษาหายคงที่ 2,972 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 82 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 รายเท่าเดิม
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 รายเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine โดยจำนวน 5 รายเดินทางจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เดินทางเข้ามาถึงไทยวันที่ 2 มิ.ย.63 ทุกรายเคยได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แล้ว ผลไม่พบเชื้อ กลับมาประเทศไทยตรวจพบเชื้อ ทุกรายไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในกทม.
ทั้งนี้รายที่ 1 เพศหญิง อายุ 38 ปี อาชีพพนักงานบริษัท รายที่ 2 เพศชาย อายุ 37 ปีเป็นนักท่องเที่ยว รายที่ 3 เพศหญิง อายุ 38 ปี อาชีพพนักงานสปา รายที่ 4 เพศหญิง อายุ 23 ปี อาชีพพนักงงานนวด รายที่ 5 เพศหญิง อายุ 24 ปี อาชีพพนักงานขายอาหาร
รายที่ 6-7 มาจากประเทศคูเวต เป็นเพศชาย อายุ 46 และ 37 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงไทยวันที่ 24 พ.ค. 63 ตรวจวันที่ 27 พ.ค.63 ผลไม่พบเชื้อ ตรวจวันที 6 มิ.ย.63 ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลในจ.สมุทรปราการ
รายที่ 8 มาจากประเทศอินเดีย เป็นเพศชาย อายุ 52 ปี เดินทางมาถึงไทยวันที่ 5 มิ.ย.63 จากการคัดกรองที่สนามบิน พบว่ามีอาการไข้และไอเข้ารับการรักษาโรงพยาบาล ในจ.สมุทรปราการ
ทั้งนี้ ไม่พบผู้ป่วยภายในประเทศติดต่อกัน 13 วันแล้ว อย่างไรก็ตาม ก็ยังต้องมีการปฏิบัติการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19อยู่ โดยยังคงสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อยๆ รวมทั้งออกไปในพื้นที่ที่มีจำนวนคนน้อย
ศบค.ระบุว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด 19 ใน 2 สัปดาห์ล่าสุด จำแนกตามปัจจัยเสี่ยง โดยพบมากที่สุด 98.61%เป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าพักในสถานที่รัฐบาลจัดหาไว้ให้ มีเพียง 1 รายที่เป็นผู้ป่วยที่ตรวจพบภายในประเทศ เป็นผู้ป่วยที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยก่อนหน้า จำแนกตามอาชีพที่พบมากที่สุดนักเรียนนักศึกษา รองลงมาเป็น พนักงานนวด รับจ้างทั่วไป และพนักงานบริษัทหรือโรงงาน
นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าก่อนออกนอกเคหสถาน เมื่อวันศุกร์ที่ 5 มิ.ย.63 โดยก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลกได้เคยประกาศว่า ให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเฉพาะผู้ที่มีอาการป่วยหรือบุคคลากรทางการแพทย์เท่านั้น รวมถึงล้างมือให้ถูกวิธีและเว้นระยะห่างกันด้วย
ส่วนมาตรการผ่อนคลายในระยะที่ 4 ที่จะเปิดกิจการที่มีความเสี่ยงสูง อย่างเช่น โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก กองถ่าย ผับ บาร์ ดังนั้น ขณะนี้รอ ศบค. ที่จะออกมาตรการเปิดบริการสถานบริการเหล่านี้ว่าจะมีมาตรการหลักและมาตรการรองรับอย่างไร ซึ่งแต่ละกิจการก็มีมาตรการปฏิบัติแตกต่างกันออกไป โดยผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก ไม่เปิดหน้า