นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการผ่อนคลายมาตรการในระยะ 4 ได้มีข้อเสนอการเพิ่มกิจกรรมและกิจการให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดเล็กพิจารณาไปแล้ว เพื่อเตรียมเสนอต่อที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ต่อไป ทั้งศูนย์ประชุม สถานบันเทิง ผับบาร์ โรงเรียน
อย่างไรก็ตาม อาจมีกิจกรรมหรือกิจการบางส่วนที่จะต้องขยับไปเปิดดำเนินการในระยะที่ 5 แต่ต้องมีการประเมินด้านสาธารณสุขอีกครั้งก่อน ซึ่งในส่วนของภาคเอกชนได้มีข้อให้กับ ศบค.ไปแล้ว โดยหากมีการขยับบางกิจการ/กิจกรรมออกไปเป็นระยะ 5 ก็เชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นาน แต่ทุกอย่างต้องมีเหตุผลที่สมดุลทั้งด้านสาธารณสุขและความปลอดภัย
ขณะที่ภาพรวมการผ่อนคลายบางกิจการ/กิจกรรมในระยะที่ 3 นายกลินท์ กล่าวว่า สามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ชายหาด พัทยา บางแสน หัวหิน รวมไปถึงเขาใหญ่ ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปพักผ่อนจำนวนมาก แต่ก็ยังน่าเป็นห่วงเรื่องการเว้นระยะห่าง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศแล้ว อาจจะมีการทดลองอนุญาตให้ชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และ นักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายแล้วเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ โดยจะต้องกำหนดมาตรการแนวทางปฏิบัติให้ชัดเจน แต่ทั้งหมดต้องยกขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ศบค. เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ตระหนักว่าความปลอดภัยเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องคำนึงถึงเศรษฐกิจปากท้องของคนในประเทศด้วย