นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขอความร่วมมือประชาชนยังคงรักษามาตรการสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ล้างมือ เว้นระยะห่าง ต่อเนื่องให้เป็นนิสัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อและแพร่ระบาด การสวม Face shield ที่ถูกต้องคือต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าร่วมด้วย
จากการสำรวจเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระหว่างมาตรการผ่อนปรน ระหว่างวันที่ 8 พ.ค. – 4 มิ.ย.63 พบว่า ประชาชนยังปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะการสวมหน้ากากเมื่อมีไข้ ไอ เจ็บคอ โดยส่วนใหญ่ระบุจะสวมหน้ากากอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บางส่วนจะเลิกสวมเมื่อไม่มีรายงานผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศ ส่วนการล้างมือด้วยน้ำสบู่ ส่วนใหญ่จะปฏิบัติก่อน-หลังรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ ขณะที่มาตรการป้องกันโรคในสถานที่ต่าง ๆ ยังทำได้ไม่เต็มที่ เช่น การสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง
ขณะที่การสำรวจทัศนคติความคิดเห็นของประชาชน โดยกรมควบคุมโรค (DDC Poll) พบว่า ประชาชนมีแนวโน้มในการสวมหน้ากากลดลง ขณะที่กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสสัมผัสโรค คือ เพศชาย อายุ 15-24 ปี นอกจากนี้ การคงมาตรการรณรงค์สวมหน้ากาก 100% แม้ไม่มีอาการป่วยจะช่วยสนับสนุนให้ประชาชนสวมหน้ากากเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อออกไปในที่สาธารณะ หรืออยู่ร่วมกับผู้อื่น รวมทั้งต้องปฏิบัติร่วมกับการล้างมือและเว้นระยะห่าง 1 – 2 เมตร เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและการแพร่กระจายของโรคโควิด-19
นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า ผลสำรวจเรื่องการสวมใส่หน้ากากที่มีแนวโน้มน่าเป็นห่วงเพราะจะมีเพียงครึ่งเดียวที่จะสวมใส่ต่อไปนั้น ต้องรณรงค์ต่อไป เพราะจะต้องสู้กับโควิดต่อไปอาจจะเป็นปี หรือสองปีกว่าจะมีวัคซีน ดังนั้นต้องป้องกันตัวเองให้มาก โดยเฉพาะเมื่อออกจากบ้านเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะมันเป็นปัจจัยที่ 6
"เราต้องป้องกันตัวเองให้มาก และยังต้องล้างมือบ่อยๆ การรณรงค์ของราชการ ความร่วมมือของสถานที่ต่างๆ ที่ได้รับการผ่อนปรนก็สำคัญในการเข้มงวดกับมาตรการต่างๆ ทั้งตรวจคัดกรองคนป่วยไม่ให้เข้า มาตรการไม่ให้คนไม่สวมหน้ากากเข้าใช้บริการ ทำความสะอาดจุดสัมผัสต่างๆ ต้องช่วยกันทั้งราชการ ภาคเอกชน องค์กรต่างๆ ประชาชนก็ต้องตระหนักว่าช่วยป้องกันโรคได้ จะได้ทำให้เราปลอดภัย"นพ.อนุพงศ์กล่าว
นพ.อนุพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่วันนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อจาก State Quarantine เกิดจากเดินทางจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำแล้ว ทำให้ตรวจคนที่กลับมาไม่มีเชื้อ แต่หลังจากนี้ถ้ายังมีคนไทยกลับมาจากตะวันออกกลาง จากสหรัฐอเมริกา อเมริกาใต้ เมื่อนั้นความเสี่ยงที่จะพบผู้ติดเชื้อใน State Quarantine ได้อีก
ขณะนี้เรายังต้องการ์ดสูง การปฏิบัติในเรื่องการป้องกันตัวเองยังต้องเข้มงวด เพื่อจะได้มีความปลอดภัย เพราะมีประชาชนคนไทยที่อยู่ต่างประเทศยังทยอยกลับมา แต่ให้ความมั่นใจว่าการกักตัว 14 วันใน State Quarantine มีมาตรการเข้มข้น โดยมีการตรวจเชื้อ 2 ครั้งถ้ามีเชื้อก็จะรักษาตัวแบบผู้ป่วย แต่ถ้าตรวจ 2 ครั้งไม่มีเชื้อแปลว่า ปลอดภัยแน่นอนและจะไม่ไปแพร่เชื้อที่ชุมชน
"ขอให้ประเทศไทยปลอดเชื้อตลอด 28 วันจะเบาใจได้มากกว่านี้"