พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และเข้าพัก State Quarantine ส่วนในประเทศไม่พบผู้ป่วยในประเทศต่อเนื่อง 29 วัน
สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,156 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,444 ราย และผู้ป่วยใน State Quarantine จำนวน 712 ราย วันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มอีก 1 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,023 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 75 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย
ผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย เป็นคนไทยเดินทางกลับจากประเทศอียิปต์ 2 ราย รายแรกเป็นนักศึกษาชาย อายุ 31 ปี และรายที่ 2 เป็นเพศหญิง อาชีพแม่บ้าน อายุ 22 ปี ทั้ง 2 รายเดินทางถึงไทยวันที่ 9 มิ.ย. เข้าพัก State Quarantine ที่ จ.ชลบุรี ตรวจหาเชื้อครั้งแรกวันที่ 13 มิ.ย. ไม่พบเชื้อ และตรวจพบเชื้อในครั้งที่ 2 วันที่ 20 มิ.ย.
ส่วนอีก 3 รายเดินทางกลับมาจากประเทศกาตาร์ เป็นเพศหญิง อายุ 31 ปี ชายวัย 22 ปี อาชีพพนักงานสปา และชายวัย 52 ปี อาชีพพนักงานขับรถเครน เดินทางถึงไทย 16 มิ.ย. เข้าพัก State Quarantine จ.ชลบุรี ตรวจพบเชื้อวันที่ 21 มิ.ย. ทุกรายไม่มีอาการป่วย
พญ.พรรณประภา กล่าวถึงสถานการณ์ทั่วโลกวันนี้ว่า มีจำนวนผู้ป่วย 9,187,861 ราย เป็นผู้ป่วยใหม่ 141,794 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 3,636 ราย รวมผู้เสียชีวิตแล้ว 474,339 ราย โดย 3 อันดับแรก สหรัฐฯ จำนวนผู้ป่วยสะสม 2,388,153 ราย เสียชีวิต 122,610 ราย บราซิล จำนวนผู้ป่วย 1,111,348 ราย เสียชีวิต 51,407 ราย รัสเซีย จำนวนผู้ป่วย 592,280 ราย เสียชีวิต 8,206 ราย
ส่วนสถานการณ์ฝั่งเอเชีย อินเดียมีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด 440,450 ราย เสียชีวิต 178,298 ราย ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 92
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐอเมริกาได้แสดงความกังวลหลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอายุน้อยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะทางตอนใต้ของสหรัฐฯ ได้แก่ ฟลอริด้า เซาธ์แคโรไลนา จอร์เจีย เท็กซัส และพื้นที่อื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่แรกๆที่กลับมาเปิดเมืองอีกครั้งหลังจากมาตรการล็อกดาวน์ เจ้าหน้าที่ทางการอ้างว่าเป็นเพราะมีการตรวจหาเชื้อมากขึ้น ขณะที่หลายคนมองว่าผู้ป่วยรายใหม่เกิดจากแนวทางการรักษาระยะห่างทางสังคมที่ล้มเหลว
ด้านผู้ว่าการรัฐฟลอริด้า ระบุว่า ผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ทางการต้องเปลี่ยนทิศทางการป้องกันและดูแประชาชนไปสู่กลุ่มที่มีอายุ 20-30 ปี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ และไม่จำเป็นต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ รวมทั้งมีหลักฐานว่าเชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายในหมูคนอายุน้อย จึงต้องมีการตรวจหาเชื้อเพิ่ม
พญ.พรรณประภา กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเปิดเทอมวันที่ 1 ก.ค.ไว้ว่า กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมมือกันจัดทำคู่มือแนวทางการปฏิบัติให้สถานศึกษาทุกแห่งปฏิบัติตาม โดยในคู่มือดังกล่าวจะเน้นความปลอดภัยในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 เตรียมจุดคัดกรองสำหรับรับส่งนักเรียน มีการคัดกรองอุณหภูมินักเรียน ก่อนเข้าเรียน ให้นักเรียน ครู และบุคลากรทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียน เพิ่มจุดล้างมือให้ล้างมือได้บ่อยขึ้น มีมาตรการทำความสะอาดพื้นที่สัมผัสร่วมต่างๆ กำหนดจำนวนนักเรียนต่อห้อง โดยระดับประถมไม่เกิน 20 คนต่อห้อง ระดับมัธยมไม่เกิน 25 คนต่อห้อง แต่หากโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดที่จะต้องมีจำนวนนักเรียนเกินอาจจะสลับตารางเรียนจันทร์-พุธ-ศุกร์ กับ อังคาร-พฤหัสบดี หรือวันคู่-วันคี่ ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติของแต่ละโรงเรียนเห็นชอบกันไป แต่สิ่งที่ต้องเน้นย้ำผู้ปกครองคือ ถ้าลูกหลานมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ควรให้หยุดพักรักษาตัวที่บ้าน ไม่ควรให้ไปโรงเรียน
"อยากฝากถึงน้องๆ นักเรียนและผู้ปกครองว่า เวลาไปเรียนอย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยเสมอ โดยผู้ปกครองอย่าลืมเตรียมหน้ากากอนามัยให้บุตรหลาน และอย่าลืมล้างมือบ่อยๆ และรักษาระยะห่างระหว่างเพื่อนๆ"พญ.พรรณประภา กล่าว