นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 4 รายในสถานกักกันตัวของรัฐ (State Quarantine) ส่วนภายในประเทศไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 32 วัน
สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,162 ราย วันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มอีก 2 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,040 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 58 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 2 รายแรก เป็นหญิงวัย 22 และ 27 ปี เดินทางกลับมาจากซูดานถึงไทยในวันที่ 24 มิ.ย.เข้าพักใน State Quarantine ที่ จ.สมุทรปราการ ตรวจพบการติดเชื้อและมีอาการป่วย โดยรายหนึ่งมีไข้ และอีกรายจมูกไม่ได้กลิ่น ไอ และเจ็บคอ
ส่วนอีก 2 รายเป็นหญิงวัย 32 ปี และ 53 ปี อาชีพพนักงานนวด เดินทางกลับมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถึงไทยในวันที่ 13 มิ.ย. ช่วงแรกตรวจไม่พบเชื้อ จากนั้นเข้าพักที่ State Quarantine ใน กทม.และตรวจพบเชื้อในวันที่ 24 มิ.ย.แต่ไม่มีอาการป่วย
ปัจจุบันมีผู้เข้ามาอยู่ในสถานกักกันตัวของรัฐทั้งหมด 46,569 ราย ตรวจพบเป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ 225 ราย คิดเป็น 0.48% ซึ่งถือว่ามีจำนวนไม่มาก โดยอยู่ในวัยทำงานมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 39 ปี
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก 211 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ ล่าสุดพบผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 9,710,205 ราย เสียชีวิตแล้ว 491,783 ราย โดยสหรัฐมียอดผู้ป่วยยืนยันและเสียชีวิตสะสมมากสุดอยู่ที่ 2,504,588 ราย และ 126,780 ราย ตามลำดับ ส่วนประเทศไทยตกลงมาอยู่ที่อันดับ 94
"ทั่วโลกกำลังรณรงค์เรื่องการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย หลังผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มแตะ 10 ล้านราย" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า การประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 29 มิ.ย.63 จะมีการพิจารณาประเด็นที่น่าสนใจ 5 เรื่อง ได้แก่ การผ่อนปรนกิจการ/กิจกรรมในระยะที่ 5, การต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน, การอนุญาตให้คนต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ, มาตรการรองรับการศึกษาของเด็กบริเวณชายแดน และการยกเว้นปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องเว้นระยะห่างบนระบบขนส่งสาธารณะ จากเดิมที่กำหนดที่นั่งห่างตัวเว้นตัว หรือการยืนห่าง 1 เมตร เหลือ 1 ฟุต
ทั้งนี้ การใช้งานแพลตฟอร์มไทยชนะ ณ วันที่ 25 มิ.ย.63 มีกิจการ/ร้านค้าลงทะเบียนแล้ว 230,768 แห่ง ผู้ใช้งานแล้ว 30,792,286 ราย ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากกิจการ/กิจกรรมที่จะได้รับผ่อนคลายในระยะที่ 5 จะต้องลงทะเบียนล่วงหน้า
สาเหตุที่มีการกำหนดเงื่อนไขสำหรับกิจการ/กิจกรรมที่จะได้รับการผ่อนคลายระยะที่ 5 ค่อนข้างมาก เพื่อให้เกิดความมั่นใจในระดับหนึ่ง ถึงแม้ไม่พบการติดเชื้อในประเทศต่อเนื่องมาแล้ว 32 วัน แต่ไม่ได้บ่งบอกว่าจะไม่มีการแพร่เชื้อได้ เพราะที่จีนไม่พบเชื้อนานถึง 50 วันยังเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อใกล้แตะ 10 ล้านคนแล้ว นอกจากนี้กิจการ/กิจกรรมในระยะที่ 5 มีความเสี่ยงสำคัญในเรื่องการเว้นระยะห่างที่เคยเห็นสาเหตุของการแพร่ระบาดในสถานบันเทิงช่วงแรก ดังนั้นขอให้ยึดมาตรการรักษาสุขอนามัยและการลงทะเบียนไทยชนะ
"เราต้องปกป้องตัวเอง แค่ปฏิบัติตามหลักสุขอนามัย 5 ข้อและลงทะเบียนไทยชนะ ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีสูงอะไรมากมาย...ถ้าจำได้เหตุการณ์ที่เกาหลีใต้ที่ผู้ป่วยไปเที่ยวสถานบันเทิงถึง 5 แห่งในคืนเดียว แล้วพบการติดเชื้ออีก 153 คน แต่ต้องมีการตรวจคัดกรองนับหมื่นคน ทำให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายจำนวนมาก" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ส่วนข้อกังวลเรื่องการอนุญาตให้คนต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศนั้นจะมีการกำหนดเงื่อนไขที่รัดกุม เช่น กรณีเข้ามารับบริการทางการแพทย์เกี่ยวกับการศัลยกรรมเสริมความงาม การมีบุตรยาก แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้ามารักษาอาการป่วยโควิด-19 นอกจากนี้การกำหนดระยะเวลากักกันตัว 14 วันถือว่ามีความเหมาะสม เพราะการตรวจหาเชื้อส่วนใหญ่จะพบในช่วงก่อน 7 วันมากถึง 85% ส่วนเรื่อง Travel Bubble นั้นยังไม่มีความชัดเจน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้เร็วสุดในเดือน ส.ค.63