พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะตั้งเขตปกครองพิเศษในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ต้องบังคับใช้กฎหมายฉบับเดียวกันทั้งประเทศ
สำหรับบรรยากาศในขณะนี้ชาวไทยพุทธและไทยมุสลิมมีความร่วมมือดีขึ้น และสนับสนุนการทำงานของหน่วยชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.) ที่มีทั้งชาวไทยพุทธและไทยมุสลิม แต่ก็ยังมีความหวาดระแวงอยู่บ้าง ขณะที่เหตุร้ายรายวันเริ่มลดน้อยลง
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ในเดือน ส.ค.นี้ จะเดินทางไปยังมาเลเซียเพื่อหารือกับ นายอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เกี่ยวกับความร่วมมือในหลายด้าน
ส่วนความคืบหน้าในการพูดคุยกับแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อเข้ามา
ด้าน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) กล่าวว่า การเดินทางลงไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ภาคใต้ของนายกรัฐมนตรี และคณะ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการพูดคุยกับแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบ เพราะกระบวนการดังกล่าวจะเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่
ผบ.ทบ.กล่าวว่า การเจรจาเป็นแนวทางที่สามารถยุติปัญหาได้อย่างสมบูรณ์ เพราะขณะนี้กองทัพยังใช้นโยบายเกาะติดพื้นที่เพื่อจำกัดพื้นที่อันตรายลงและการแก้ปัญหารายวันของเจ้าหน้าที่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ โดยเร็วๆ นี้จะเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อไปติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา
"มันเป็นหลักการที่จะทำให้เกิดข้อยุติที่สมบูรณ์ เราลดกระแสรายวันเนี่ยมันเป็นงานทางทหารเนี่ยมันไม่ได้ผล มันต้องใช้การเมือง" พล.อ.สนธิ กล่าว
ส่วนข้อเรียกร้องให้กำหนดพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปกครองพิเศษนั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ขณะนี้การบริหารส่วนท้องถิ่น ทั้งในส่วนขององค์การบริหารส่วนตำบล และองค์การบริหารส่วนจังหวัด มีความเหมาะสมและเป็นการกระจายอำนาจอยู่แล้ว ซึ่งชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ก็ได้รับโอกาสให้มีส่วนร่วมเข้ามาบริหารรูปแบบดังกล่าว
ผบ.ทบ.กล่าวอีกว่า เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีแม่ทัพภาคที่ 4 สั่งปิดศูนย์วิวัฒน์สันติ ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี เนื่องจากมีเหตุซ้อมผู้ต้องสงสัยก่อความสงบในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อนโยบายของกองทัพอย่างรุนแรงที่ต้องการสร้างความสมานฉันท์ โดยใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นที่ตั้ง
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--