นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุม ร่วมกับประชุมผู้ตรวจราชการ สาธารณสุขนิเทศก์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผอ.รพ.ทั่วประเทศ ผ่านระบบวิดีโอทางไกล มอบนโยบายเตรียมความพร้อมรับการผ่อนปรนเฟส 5
นายอนุทิน กล่าวว่า ประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศนานกว่า 1 เดือน เป็นผลจากการทำงานของทุกหน่วยงาน และประชาชน รวมทั้งระบบสาธารณสุขที่มีความเข้มแข็ง ทำให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 (ศบค.) ของรัฐบาลมั่นใจ นำไปสู่การผ่อนคลายระยะที่ 5 เพื่อให้การดำเนินชีวิต การประกอบอาชีพ ฟื้นฟูธุรกิจ เศรษฐกิจให้กลับคืนมามากที่สุด มีการเปิดโรงเรียน สถานบันเทิง เปิดรับชาวต่างชาติเข้าประเทศในกลุ่มที่จำกัด คนไทยกลับบ้าน ทำให้มีโอกาสพบผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มได้ จึงต้องค้นหา ป้องกัน ควบคุม จัดการ ให้ได้ หากมีผู้ป่วยต้องนำเข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดการระบาด สร้างความเชื่อมั่นและจะไม่ปิดประเทศเช่นที่ผ่านมาหากประชาชนให้ความร่วมมือ การ์ดอย่าตก
"เราเคยมีเคสการระบาดที่เกิดจากการดื่มน้ำแก้วเดียวกันมาแล้ว ไม่อยากให้เกิดเหตุแบบนี้ซ้ำซาก จากนี้ จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปสุ่มตรวจ หากพบละเมิดกรอบที่ตั้งไว้ ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย...ทางกระทรวงสาธารณสุข มีความกังวลเรื่องการระบาดแน่นอนอยู่แล้ว แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะล็อกทุกอย่าง ไม่ให้ค้าขาย ไม่เดินทาง ไม่เรียน เพื่อแลกกับเลขผู้ติดเชื้อเหลือ 0 ทุกวัน สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขวางไว้เป็นเป้าหมายคือ ถ้ามีผู้ติดเชื้อ ต้องตรวจเจอให้เร็ว คัดแยกเร็ว และรักษาได้ ขณะนี้ ได้เตรียมพร้อมบุคลากร สำรองยาและเวชภัณฑ์ไว้แล้ว แต่ประชาชน ขอให้ยังรักษาวินัยต่อไป"
สำหรับกระทรวงสาธารณสุข ต้องวางแผนรับมือ การ์ดต้องไม่ตก ได้กำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน และเป็นเลขาธิการคณะกรรมการโรคติดต่อ มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมาย ร่วมกับฝ่ายปกครอง เคร่งครัดในการบังคับกฎหมาย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของประชาชน
นอกจากนั้น กระทรวงสาธารณสุข ต้องเพิ่มประสิทธิภาพตามจุดคัดกรอง อาทิ สนามบิน ท่าเรือ ด่านตรวจคนเข้าเมือง การตรวจต้องรวดเร็ว มีความแม่นยำ ได้สั่งการให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกรมควบคุมโรค จัดเตรียมชุดตรวจ และเวชภัณฑ์ให้พร้อม หลักการคือตรวจเจอให้เร็ว รีบคัดแยก และต้องรักษาให้หาย
ที่ผ่านมาการทำงานของหน่วยงานสาธารณสุข ในพื้นที่ต่างๆ ทำได้ดีมาก แต่จากนี้ งานอาจจะหนักขึ้น ขณะที่ประชาชน ขอให้สวมหน้ากากออกจากบ้าน และอยู่บนวินัย การเปิดโรงเรียน ทั้งนักเรียน และผู้ปกครอง ขอให้ใส่หน้ากาก หากพบลูกหลานมีอาการป่วย ให้ไปหาหมอ อย่าฝืนส่งไปโรงเรียนเด็ดขาด
นพ.สุขุม กล่าวว่า ได้ให้ทุกโรงพยาบาลเตรียมความพร้อม สำรวจเวชภัณฑ์ ชุดป้องกันและอุปกรณ์ที่จำเป็น และขอให้เน้นย้ำกับผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดใช้ประโยชน์ข้อมูลจาก platform "ไทยชนะ" ที่เก็บข้อมูลร้านค้า การเช็คอิน-เช็คเอาต์ของผู้ใช้บริการ และใช้แอปพลิเคชันผู้พิทักษ์ไทยชนะสำหรับประเมินสุขอนามัยของกิจการ รวมทั้งให้เฝ้าระวังโรคในผู้ป่วยโรคติดต่อทางเดินหายใจ ส่งตรวจ LAB หาเชื้อก่อโรคโควิด-19
ส่วนโรงเรียน หรือ สถานที่เสี่ยงที่เปิดให้บริการ หากพบผู้ป่วยอาการทางเดินหายใจเฉียบพลัน เช่น ไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ 5 รายขึ้นไปภายในสัปดาห์เดียวกัน ในสถานที่เดียวกันเช่น ห้องเรียน หอพัก สถานประกอบกิจการ ให้สอบสวนและควบคุมโรคโดยเร็ว