นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศที่พักอยู่ใน State Quarantine ส่วนในประเทศไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่อง 42 วัน
สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,195 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย และผู้ป่วยใน State Quarantine จำนวน 258 ราย จากการคัดกรองผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศทั้งหมด 52,957 ราย ขณะที่มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 1 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วอยู่ที่ 3,072 ราย รักษาตัวอยู่ 65 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่เท่าเดิมที่ 58 ราย
โดยผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ทั้ง 5 รายเดินทางมาจากประเทศคูเวต เป็นชาย 4 ราย อายุ 34, 46, 48 และ 51 ปี อาชีพรับจ้าง และหญิง 1 ราย อายุ 37 ปี อาชีพพนักงานนวด ทั้งหมดเดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.63 โดยพักอยู่ใน State Quarantine ที่กรุงเทพฯ และตรวจพบเชื้อในวันที่ 2 ก.ค.63 จำนวน 3 ราย และวันที่ 5 ก.ค.63 อีก 2 ราย ซึ่งทั้งหมดไม่มีอาการ
"เที่ยวบินนี้เคยมีรายงานพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อแล้ว 5 ราย ซึ่งจากจำนวนผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศคูเวตทั้งหมด 293 ราย พบติดเชื้อมากสุดรวม 44 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 17.05%" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 176,048 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 11,556,681 ราย เสียชีวิตแล้ว 536,776 ราย โดยสหรัฐมีจำนวนผู้ป่วยสะสมสูงสุด 2,982,928 ราย และเสียชีวิตมากสุด 132,569 ราย ขณะที่ไทยมีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่อันดับ 97 ของโลก
"ยอดผู้ป่วยติดเชื้อในสหรัฐน่าจะแตะ 3 ล้านรายในอีก 1-2 วันนี้ ส่วนที่สเปนและฝรั่งเศสที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่มา 2-3 วันแล้วคงต้องติดตาม" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โฆษก ศบค.กล่าวว่า แม้จะมีผลสำรวจว่าประชาชน 2 ใน 3 เริ่มคลายกังวลต่อสถานการณ์โรคโควิด-19 แล้วก็ยังจำเป็นต้องดูแลตัวเองตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งการสวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง ไม่ไปในที่แออัดนานๆ ต่อเนื่อง และการใช้แพลตฟอร์มไทยชนะจะเป็นวัคซีนภายนอกอีกอย่างที่มีความสำคัญในขณะนี้ ซึ่งมีจำนวนผู้เข้าใช้งานเพิ่มมากขึ้น และจากการตรวจสอบกิจการ/กิจกรรมที่ได้รับผ่อนปรนมาตรการก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดต่อไป
"แม้จะรายงานว่าการติดเชื้อในประเทศเป็นศูนย์ แต่ไม่สามารถบอกว่ามีคนติดเชื้ออยู่ในประเทศไทยหรือไม่ มีคนข้ามแดนผิดกฎหมายเข้ามาอยู่ในใจกลางเมืองและชายขอบปะเทษราว 3 พันคน อาจนำเชื้อเข้ามาได้ ประชาชนการ์ดต้องไม่ตก ถ้าการ์ดตกเมื่อไหร่ก็มีความเสี่ยงทั้งสิ้น" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ขณะที่ผู้ประกอบการให้คิดหลายๆชั้น หากมีการเผยแพร่ภาพการปล่อยปละละเลยให้มีคนเข้าไปแออัดในพื้นที่ต่อไปก็จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของกิจการ ส่วนเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่จะลงไปตรวจสอบนั้นจะต้องลงทะเบียนในแอพพลิเชั่นผู้พิทักษ์ไทยชนะเพื่อป้องกันปัญหาการแอบอ้าง
สำหรับคนต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาตามโครงการ Medical & Wellness Program นั้นจะต้องผ่านขั้นตอนการคัดกรองเช่นกัน ซึ่งจะเป็นการเข้ามาใช้บริการเกี่ยวกับการศัลยกรรมความงาม บริการด้านทันตกรรม การแก้ปัญหาการมีบุตรยาก ซึ่งมีโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ลงทะเบียนไว้ 67 แห่ง และมีคนต่างชาติจาก 34 ประเทศลงทะเบียนขออนุญาตเข้ามาใช้บริการจำนวน 1,169 ราย พร้อมผู้ติดตาม 1,521 ราย
"คนเหล่านี้ไม่ได้ป่วยโควิด-19 และเข้ามาก็ต้องกักตัวรักษาจนครบ 14 วัน รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง มีการตรวจหาเชื้อ 3 ครั้ง อยากให้ประชาชนมั่นใจในระบบ เราจะได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เกี่ยวพันด้านการแพทย์ไปได้ด้วยส่วนหนึ่ง" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ส่วนกรณีที่มีข่าวการเดินทางมาเยือนของผู้บัญชาการทหารบกของสหรัฐนั้น ศบค.ได้ประสานไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องถึงมาตรการป้องกันโรคให้เข้าใจดีแล้วที่จะปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ แต่เนื่องจากเป็นการเดินทางมาเยือนในช่วงเวลาสั้นๆ จึงจะไม่มีการกักตัว 14 วัน ส่วนเจ้าหน้าที่ไทยที่จะไปดูแลหลังเสร็จสิ้นภารกิจแล้วจะมีการตรวจคัดกรองเป็นระยะๆ
นอกจากนี้กรณีคนไทยกว่า 600 รายที่ต้องการเดินทางกลับมาจากประเทศอังกฤษนั้นเนื่องจากเที่ยวบินไม่เพียงพอ ขอให้ผู้ที่ต้องการเดินทางกลับติดต่อประสานกับทางสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำอังกฤษ โดยผู้ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนบางส่วน เช่น ขาดยารักษาโรค จะหาช่องทางให้เดินทางกลับจากสนามบินอัมสเตอร์ดัม ส่วนผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนให้ติดต่อสถานทูตไทยฯ ในวันที่ 20 และ 26 ก.ค.63 เพื่อสำรองที่นั่งในเที่ยวบินเช่าเหมาลำจะได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายแพง