นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย แถลงข่าว "มาตรการป้องกันโควิด 19 ในโรงเรียนและสถานศึกษา" ว่า ขณะนี้ โรงเรียนได้เปิดเรียนตามปกติ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมกันกำหนด 1 + 5 มาตรการหลักในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในสถานศึกษา โดย 1.ให้จัดพื้นที่ได้ตามปกติ แต่ต้องมีระยะห่างให้มากที่สุด
และยังคงเข้ม 5 มาตรการหลัก ทั้งการคัดกรอง วัดไข้ สังเกตอาการ ซักประวัติเสี่ยงทุกคนก่อนเข้าโรงเรียน, สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในสถานศึกษา, ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำนาน 20 วินาที มีเจลแอลกอฮอล์ให้บริการ, ทำความสะอาดห้องเรียน อุปกรณ์ของใช้ พื้นผิวสัมผัสร่วม และลดแออัด ลดการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมาก หลีกเลี่ยงไปในที่แออัด ตามแนวทางที่กำหนดในคู่มือการปฏิบัติสำหรับสถานศึกษาในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
รวมทั้งมีจิตอาสา ข้าราชการบำนาญที่เป็นแพทย์ พยาบาล การสาธารณสุข และด้านการศึกษา เป็นผู้พิทักษ์อนามัยโรงเรียน ช่วยให้ความรู้และให้คำปรึกษาการดูแลสุขภาพ และติดตามการปฏิบัติตามมาตรการในโรงเรียน
นอกจากนี้ จะมีการปรับมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยพิจารณาจากความรุนแรงของการระบาดของโรค ซึ่งแบ่งเป็น 5 ระดับสีเพื่อให้นักเรียนปลอดภัย และจะดำเนินการเพิ่มในกลุ่มเด็กนักเรียนกลุ่ม G ที่เดินทางผ่านด่านชายแดนมาเรียนในประเทศไทย จะให้โรงเรียนจัดสถานที่กักตัว (Organization Quarantine) 14 วัน
นางเกศทิพย์ ศุภวานิชย์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เพื่อให้สถานศึกษาเปิดการเรียนการสอนได้อย่างปลอดภัย ได้ตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือสถานศึกษาประสบภัยพิบัติกระทรวงศึกษาธิการตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของกระทรวงศึกษาธิการได้ร่วมประชุมกับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เตรียมการเปิดสถานศึกษา โดยผ่อนคลายเรื่องการเว้นระยะห่าง เพื่อให้สถานศึกษา 5,000 กว่าแห่งที่มีข้อจำกัดสามารถเปิดเรียนได้ จัดให้เว้นระยะให้มากที่สุด แต่ต้องเข้มมาตรการหลักป้องกันตนเอง