ก.ท่องเที่ยวฯ ชงครม.พิจารณากฎหมายให้อำนาจททท.ตั้งกองทุน-ระดมทุน

          แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาร่าง พ.ร.บ. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในวันนี้  เพื่อให้อำนาจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ในการพัฒนาตลาดท่องเที่ยว เช่น ตั้งกองทุนที่สนับสนุนการทำงานของ ททท.โดยรัฐบาลจัดสรรเงินอุดหนุนให้นอกเหนือจากงบประมาณที่ได้รับ
          รวมทั้ง มีอำนาจลงทุนหรือร่วมทุนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว, กู้ยืมเงินทั้งในและต่างประเทศ, ออกพันธบัตรหรือตราสารเพื่อการลงทุนหรือร่วมทุนในกิจการอุตสาหกรรม, มีสิทธิครอบครองทรัพย์สิน รวมทั้งก่อตั้งสิทธิทั้งในและต่างประเทศ เป็นต้น
          ทั้งนี้ ในพ.ร.บ.ดังกล่าวกำหนดให้ ททท.ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนในกรณีที่จะกู้เงินเกินครั้งละ 50 ล้านบาท, การออกพันธบัตร หรือตราสารเพื่อการลงทุน และการลงทุนหรือร่วมทุนในกิจการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีเงินจำนวนเกิน 50 ล้านบาท
          แหล่งข่าว กล่าวว่า กระทรวงการคลังมีความเห็นว่าการจัดตั้งกองทุนโดยกำหนดให้รัฐบาลจัดสรรเงินอุดหนุนนอกเหนือจากงบประมาณที่ได้รับตามกฎหมายอยู่แล้วถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น เนื่องจาก ททท.เป็นรัฐวิสาหกิจที่ใช้เงินงบประมาณในการดำเนินงานเป็นหลัก โดยแต่ละปีจะได้รับงบประมาณเฉลี่ยปีละ 98% ของรายได้รวม เพื่อใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ ซึ่งหากไม่พอก็สามารถขอเพิ่มเติมได้
          สำหรับวาระอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ การตรวจสอบข้อมูล รับฟังความคิดเห็นและทำความเข้าใจกับราษฎรโดยทั่วไปทั้งผู้ได้รับประโยชน์และผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น จ.แพร่, ร่างแผนพัฒนากีฬาแห่งชาติฉบับที่ 4 (2550-2554), ร่างพรบ.สภาองค์กรชุมชนและร่างพรบ.คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมคนพิการแห่งเอเชียแปซิฟิก(องค์การมหาชน)
          กระทรวงกลาโหม เสนอร่างประกาศกระทรวงกำหนดยุทธภัณฑ์ตาม พรบ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530,กระทรวงพลังงาน เสนอการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าดว้ยโครงข่ายระบบส่งไฟฟ้าอาเซียนและขอความเห้นชอบในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนครั้งที่ 26 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้องปี 2551
          และ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอเรื่องการช่วยเหลือเกษตรกรในโครงการปลูกยางพารา 1 ล้านไร่