พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลาง ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) กล่าวว่า ศบค.ชุดเล็กเตรียมเสนอให้ขยายเวลาการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน คือสิ้นสุดเดือน ก.ย.63 เพราะแม้ว่าสถานการณ์ในไทยขณะนี้ถือว่าดีขึ้นมาก หากเทียบกับตัวเลขผู้ติดเชื้อในแต่ละวัน แต่ก็มีความเป็นห่วงประชาชน เพราะมีการผ่อนคลายการเฝ้าระวังไปมาก ตั้งแต่รับทราบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นศูนย์ติดต่อกันหลายวัน
อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน และยังสามารถชุมนุมได้ เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในบางข้อกฎหมายที่ พ.ร.บ.ควบคุมโรค ไม่สามารถทำได้ อีกทั้งยังช่วยให้รวบรวมหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้มาทำงานร่วมกันในจุดเดียว
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ภาพรวมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยขณะนี้ ศบค.ได้พยายามเฝ้าระวังในจุดที่อาจมีการรั่วไหล เพราะหากเกิดการระบาดรอบสองก็เป็นที่น่าเสียดาย เนื่องจากเราดูแลอย่างดีจนไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศมาถึง 90 วันแล้ว และขอยืนยันว่ามาตรการ state quarantine กักตัว 14 วันเป็นมาตรการที่เชื่อถือได้ แต่ก็มีข้อห่วงใยว่าการพบเชื้อครั้งแรกส่วนใหญ่จะพบภายใน 14 วัน แต่หลังจากพบแล้วเชื้อจะอยู่ได้ถึง 30 วัน
ส่วนกรณีที่ทหารสหรัฐฯจะครบกำหนดการกักตัว 14 วันในวันนี้ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ทหารยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องดำรงการฝึกทั้งการฝึกของเราเองและการฝึกร่วมผสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเป็นทหาร จึงต้องขอความเห็นใจจากประชาชน เพราะกองทัพต้องมีการฝึก เนื่องจากจะเป็นโอกาสได้รับเทคโนโลยีจากกองทัพต่างประเทศที่มีความทันสมัย เพื่อนำมาพัฒนากองทัพของเรา
นอกจากนี้ ยังมีกองร้อยทหารช่างจากเซาท์ซูดานผลัดที่ 1 ที่จะเดินทางกลับประเทศไทยในเดือน ก.ย.นี้ หลังจากไปปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพจำนวน 237 นาย ซึ่งทางกองทัพได้แจ้ง ศบค.แล้วอย่างไม่เป็นทางการ โดยทหารทั้งหมดต้องเข้าสู่กระบวนการ state quarantine เช่นเดียวกับผู้อื่น
ทั้งนี้ รอง ผบ.ทบ. กล่าวยืนยันว่า ศบค.จะยึดถือมาตรการการเข้า state quarantine ตลอดไป ไม่ว่าจะมีการบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่ก็ตาม