พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เรียกประชุมศบค. ชุดเล็ก เพื่อประเมินสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 หลังผ่อนคลายมาตรการเป็นระยะไปแล้ว และล่าสุดพบ 2 หญิงไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและผ่านการกักกันตัว 14 วันแล้ว กลับบ้านใช้ชีวิตปกติ แต่หลังจากนั้นเข้าตรวจร่างกายเพื่อเดินทางกลับไปต่างประเทศ พบสารพันธุกรรมของเชื้อ โควิด -19 แต่เชื้อน้อยมาก รวมถึงการพิจารณาให้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆเพิ่มเติม เช่น เปิดให้ประชาชนเข้าชมกีฬา หรือ คอนเสิร์ต ตามขนาดพื้นที่ การเดินทางเต็มรูปแบบภายในประเทศ ทั้งทางบก น้ำ อากาศ
ก่อนการประชุม นพ.อุดม คชินทร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเคสหญิงไทย 2 รายล่าสุดที่พบเชื้อโควิด-19 ว่า จากผลการตรวจผู้ติดเชื้อ 1 ใน 2 รายพบซากเชื้อโควิด 19 จะไม่เกิดการแพร่ระบาด และจากการยืนยันของกระทรวงสาธารณสุขพบว่าทั้ง 2 คนผ่านการกักกันตัวของรัฐ 14 วันมาแล้ว
ทั้งนี้ การพบซากเชื้อในผู้ป่วยรายเดิมที่หายแล้วมีอยู่ประปราย และยืนยันว่าซากเชื้อไม่ติดต่อ ขอประชาชนสบายใจได้อย่าตื่นตระหนก เพราะเชื่อวาจะไม่ส่งผลต่อการผ่อนคลายมาตรการใดๆ ซึ่งที่ผ่านมาไทยไม่เคยลดมาตรการด้านสาธารณสุข และการพบซากเชื้อก็ไม่ใช่การแพร่ระบาดรอบ 2
ส่วนการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ที่มีโครงการใช้งบประมาณ 600 ล้านบาทร่วมวิจัยกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดนั้น นพ.อุดม กล่าวว่า หากไทยดำเนินการเองต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปี ครึ่ง แต่เมื่อยกระดับความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดจะพัฒนาผลิตวัคซีนได้ถึง 200 ล้านโดส เมื่อมีความร่วมมือก็ต้องเป็นบริษัทที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก และสามารถจำหน่ายวัคซีนให้ต่างประเทศได้
ส่วนความจำเป็นที่คงต้อง พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ต่อไปก็เพื่อป้องกันโควิด-19 เพราะเป็นกฎหมายตัวเดียวที่รวมหลายหน่วยงานไว้ ขออดทนอีก 1 เดือน