พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในบริการขนส่งสาธารณะว่า หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ผ่อนคลายมาตรการให้ระบบขนส่งสาธารณะมีผู้โดยสารได้เต็มจำนวนความจุเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันทั้ง 4 ส่วน คือ 1.อาคารสถานีโดยสารที่จะมีการคัดกรอง-ลงทะเบียน, จุดล้างมือ, ทำความสะอาดบริเวณจุดสัมผัสบ่อยๆ, เว้นระยะห่าง, ดูแลเรื่องความแออัด และมีระบบระบายอากาศที่ดี 2.ยานพาหนะต้องมีการทำความสะอาดจุดเสี่ยงสำคัญบ่อยๆ และลดปริมาณสิ่งของที่ไม่จำเป็น, เปิดประตู-หน้าต่างเพื่อระบายอากาศก่อนและหลังใช้งาน, จัดให้มีจุดล้างมือ, งดเสริ์ฟอาหาร 3.คนขับรถ/พนักงานต้องสังเกตุอาการตัวเอง หากมีอาการไข้ ไอ จาม ต้องงดปฏิบัติ, ล้างมือบ่อยๆ และสวมหน้ากากตลอดเวลา และ 4.ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากาก,ลดคุยโทรศัพท์,เลี่ยงรับประทานอาหาร, เลี่ยงบริเวณแออัด หากมีอาการไข้ ไอ จาม เลี่ยงออกนอกบ้าน
"ไม่ว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการอย่างไร ขอให้ทุกคนรักษาสุขอนามัย ทั้งการสวมหน้ากาก การล้างมือบ่อยๆ และลดความแออัดก็จะช่วยให้เราเดินหน้าตามวิถีใหม่ไปได้" พญ.พรรณพิมล กล่าว
ด้านนายสุมิตร ศรีสันติธรรม ผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินการตามมาตรการต่อเนื่องมานานกว่า 7 เดือนแล้วตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค.63 โดยจะมีการทำความสะอาดตัวรถและสถานีก่อนให้บริการ ระหว่างวันจะมีพนักงานทำความสะอาดตัวรถ และจุดสัมผัสบ่อยเป็นประจำ ส่วนการคัดกรองนั้นในส่วนของพนักงานเองที่จะต้องดำเนินการก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ สวมหน้ากากตลอดเวลา พร้อมทั้งอบรมให้ความรู้แก่พนักงานทุกคน ขณะเดียวกันก็จะมีการคัดกรองผู้มาใช้บริการ ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิไม่ให้เกิน 37.5 องศาเซลเซียสและการสวมหน้ากากตลอดเวลา ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากผู้โดยสารเป็นอย่างดี ทำให้ไม่มีรายงานผู้โดยสารติดเชื้อ
สำหรับการเว้นระยะห่างได้มีการควบคุมปริมาณผู้โดยสารให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้โดยสารกลับมาใช้บริการราว 75% หรือราว 7 แสนคน/วัน จากปกติที่มีผู้ใช้บริการ 8.5 แสนคน/วัน โดยมีพนักงานชี้แจงให้ผู้โดยสารเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องกักจำนวนไม่ให้เกิดความแออัดบนสถานี และต้องขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการให้เหลื่อมเวลาทำงานจะช่วยกระจายผู้โดยสารไปยังช่วงเวลาอื่นๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้เพิ่มความถี่ของขบวนรถเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผู้โดยสารตกค้าง ส่วนการระบายอากาศนั้นขบวนรถจะจอดเพื่อเปิดประตูตามสถานีทุกๆ 2 นาที
"แม้จะไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ แต่ขอให้ผู้โดยสารเช็คอินกับแอปฯไทยชนะ เพื่อให้เกิดความสะดวกหากเกิดปัญหาจะสามารถตรวจสอบได้ง่าย เชื่อว่าหากทุกคนให้ความร่วมมือจะช่วยให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตไปได้" นายสุมิตร กล่าว