พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดงาน "เกษตรสร้างชาติครั้งที่ 2" และสัมมนารวมพลคนสร้างชาติ พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "เกษตรทางรอดของประเทศไทย" โดยระบุว่า ภาคการเกษตรมีความสำคัญกับประเทศมายาวนาน และเป็นอาชีพหลักของคนไทย แต่เกษตรกรกว่า 25 ล้านคนยังมีรายได้ไม่เพียงพอ รัฐบาลยังต้องช่วยประกันรายได้สินค้าเกษตร ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาทั้งระบบและปรับรูปแบบการเกษตรให้ปลูกพืชที่เหมาะสมกับพื้นที่ รวมถึงแก้ปัญหาพื้นที่การเกษตร ใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย มีการกักเก็บน้ำให้เพียงพอ โดยให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) ไปวางแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกวันนี้สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไป มีความท้าทายและการแข่งขันมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยต้องพยายามปรับตัวเอง แต่ต้องไม่ทิ้งความเป็นไทย และต้องอย่าให้ใครมาทำลายความเป็นไทย ซึ่งเกษตรต้องร่วมกับภาครัฐในการปรับเปลี่ยนตนเอง ใช้เทคโนโลยีทำการเพาะปลูก การขายออนไลน์ การรวมกลุ่มผลิต แปรรูปและส่งออก เพื่อให้มีรายได้ที่มั่นคง และยกระดับสินค้าการเกษตรให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"รัฐบาลรับผิดชอบในการแก้ปัญหาต่างๆ ขออย่าลืมว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้าง รัฐบาลต้องการสร้างความเข้าใจกับทุกคน และต้องจริงใจในการแก้ไขปัญหา เพราะหากไม่มีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน ก็จะทำให้มีการออกมาเดินขบวนเรียกร้อง ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกัน" นายกรัฐมนตรีกล่าว
พร้อมกันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุว่า การทำให้คนชอบคนรักนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การแก้ปัญหาชาตินั้นยากกว่า ซึ่งตนต้องการแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ต้องการให้บ้านเมืองสงบ เพื่อให้เกิดการพัฒนาแก้ปัญหาประเทศ โดยเชื่อมั่นในความเป็นไทยที่มีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยเข้มแข็งมาโดยตลอด เมื่อใดที่ไม่มีทั้ง 3 สิ่งนี้ก็จะเสียหายกันทั้งหมด เพราะขณะนี้ไทยเป็นแกนกลางอาเซียน จึงขอว่าอย่าทำลายประเทศ ขอร้องให้หยุดความขัดแย้ง และช่วยกันนำพาลูกหลานไปสู่อนาคตที่ดีต่อไป