นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศเมียนมาทำให้ประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อม โดยหวังว่าประเทศเมียนมาจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีประเทศไทยก็จะมีความเสี่ยงลดลงตามลำดับ แต่หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ประเทศไทยก็ต้องเตรียมความพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับการที่จะมีผู้ป่วยกระเซ็นกระสายเข้ามาในประเทศไทย
จังหวัดที่เป็นจังหวัดเสี่ยง กระทรวงสาธารณสุขแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มจังหวัดตามแนวชายแดน 10 จังหวัด และกลุ่มจังหวัดที่แรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายมักจะไปทำงาน ส่วนใหญ่เป็นจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งกลุ่มจังหวัดเหล่านี้ต้องเริ่มจัดระบบป้องกัน ค้นหา เตรียมการรักษาพยาบาล และเตรียมทีมสอบสวนโรค และต้องเป็นการเตรียมความพร้อมของทุกฝ่ายทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายสาธารณสุข ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม อาสาสมัครสาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว ในการตรวจจับ เฝ้าระวังการเคลื่อนไหวการเดินทางเข้า-ออก ระหว่างชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งจะต้องระบุให้ได้ว่าใครคือกลุ่มคนที่เดินทางข้ามชายแดน และจะต้องเฝ้าระวังเพื่อค้นหาผู้ป่วยอย่างเข้มข้น ซึ่งจะนำไปสู่การตรวจวินิจฉัยโรคโดยเร็ว
ภาคเอกชนก็สามารถร่วมมือช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องให้กับภาครัฐอีกแรง โดยช่วงนี้ต้องหยุดนำแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศไทยในระยะนี้
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยมีหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 10 จังหวัดให้มีการดำเนินการอย่างเข้มข้น ตั้งแต่การจัดการผู้เดินทางเข้าออกตามจุดผ่านแดน จุดผ่อนปรนในพื้นที่รับผิดชอบ ให้ดำเนินการตามมาตรการและแนวทางปฏิบัติของการป้องกันโรคสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เฝ้าระวังป้องกันการเดินทางเข้าพื้นที่ของบุคคลจากประเทศเพื่อนบ้านไม่ให้มีการลักลอบเดินทางเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย