น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการการให้สิทธิ (คืนสิทธิ) ขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขกับบุคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิเด็กและบุคคลที่เรียนอยู่ในสถานศึกษาที่กระทรวงมหาดไทยได้ขึ้นทะเบียนโดยมีเลขประจำตัว 13 หลักเรียบร้อยแล้วจำนวน 3,042 คน
โดยคนกลุ่มนี้จะได้รับสิทธิครอบคลุมบริการด้านสาธารณสุข ได้แก่ การสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสมรรถภาพตั้งแต่วันที่ ครม.มีมติอนุมัติ ใช้งบประมาณดำเนินการ 7.46 ล้านบาท โดยกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดกรอบวงเงินตามจำนวนผู้มีสิทธิในอัตรางบประมาณเหมาจ่ายรายหัวเท่ากับสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปีงบประมาณ 2563 ในอัตรา 2,453.95 บาทต่อคน
อย่างไรก็ตาม หลังจากอนุมัติในครั้งนี้แล้วยังมีบุคคลที่ยังไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขอีกจำนวน 73,506 คน ซึ่งสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขเป็นสิทธิที่บุคคลควรได้รับอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมตามหลักสิทธิขั้นพื้นฐานที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ครม.จึงเห็นควรให้กระทรวงธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อมูลเพื่อยืนยันความถูกต้องและรับรองการขึ้นทะเบียนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและช่วยควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วย