"สนธิ"เผยอยู่ระหว่างตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตระหว่างการเมืองกับธุรกิจ

          พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) เผยอยู่ระหว่างตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตหลังเกษียณระหว่างการเข้ามาสู่แวดวงการเมืองกับการนั่งเป็นประธานบริษัทเอกชน
          "ตอนนี้มีคนเสนอความต้องการมาก กำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะเดินไปทางไหน" พล.อ.สนธิ กล่าว
          ประธาน คมช.กล่าวว่า ขณะนี้มีหลายบริษัทติดต่อเข้ามาเพื่อให้เป็นประธานบริษัท ซึ่งบางบริษัทก็เสนอเงินเดือนเริ่มต้น 8 แสนบาทถึง 1.5 ล้านบาท ซึ่งดีกว่าผลตอบแทนที่ได้รับอยู่ในปัจจุบันที่ต้องทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ
          ส่วนความชัดเจนเรื่องการตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมืองนั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ต้องรอให้ถึงเดือน ต.ค.นี้
          ประธาน คมช.ยังตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ติดต่อให้ไปเป็นที่ปรึกษาบริษัท พร้อมหัวเราะว่า "อันนี้ต้องต่อรองราคากันหน่อย"
          ประธาน คมช.กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ให้ความสนใจที่จะเล่นการเมืองกับกลุ่มการเมืองใด ท่ามกลางกระแสข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่ยังปิดข้อมูลเกี่ยวกับชื่อหัวหน้าพรรคการเมืองที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการได้ พล.อ.สนธิ ไปเป็นหัวหน้าพรรค
          ประธาน คมช.ยังแสดงความเห็นกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเตรียมออกมาเคลื่อนไหวหากผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ไม่มีความเหมาะสมว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะต้องอย่าลืมว่าบ้านเมืองมีกฎกติกามารยาท อย่าคิดว่ากติกาอย่างนี้แล้วไม่ถูกใจแล้วไม่ยอมรับ มันไม่ได้ มิเช่นนั้นความเป็นประชาธิปไตย สิทธิ เสรีภาพหน้าที่ก็จะหมดไป การไม่ถูกใจกติกาของตนเอง อย่ายืดถือเป็นความถูกต้อง และต้องว่าตามกติกา
          ประธาน คมช.กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่อาจกลับไปสู่ความแตกแยกทางความคิดว่า การนำพาประเทศไปข้างหน้าต้องใช้คุณธรรม ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการพูดถึงเรื่องการเสียสละ การให้อภัย
          เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวพร้อมที่จะให้อภัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ พล.อ.สนธิ ย้อนถามกลับว่า "แล้วเราคิดอย่างไร" ผู้สื่อข่าวตอบว่า ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและความถูกต้อง พล.อ.สนธิ ก็ตอบว่า "เออนี่แหละคือความถูกต้อง ผิดคือผิดถูกคือถูก"
          ประธาน คมช.ยังกล่าวอีกว่า ไม่ห่วงเรื่องที่จะถูกกลุ่มอำนาจเก่ากลับมาเช็คบิลคืน เพราะบ้านเมืองมีกฎหมายดูแล อีกทั้งเชื่อว่าประชาชนยังอยู่เคียงข้าง คมช.