นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันเขื่อนลำพระเพลิง จังหวัดนครราชสีมา มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 145 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือคิดเป็นร้อยละ 93 ของความจุอ่างฯ ได้บริหารจัดการน้ำเพื่อควบคุมปริมาณน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม ด้วยการระบายน้ำลงคลองส่งน้ำสายใหญ่ วันละ 1.55 ล้าน ลบ.ม. และระบายลงสู่ลำน้ำธรรมชาติ วันละ 3.71 ล้าน ลบ.ม. รวมปริมาณน้ำที่ระบายทั้งสิ้นวันละ 5 ล้าน ลบ.ม. โดยควบคุมการระบายน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของคลองส่งน้ำ
ขณะนี้การระบายน้ำจากเขื่อนลำพระเพลิง ยังไม่ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณด้านท้ายอ่างฯ ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ บริเวณท้ายประตูระบายน้ำเหมืองตาเบ้า บริเวณตัวอำเภอปักธงชัย และบริเวณท้ายประตูระบายน้ำท่าเขื่อน ? ประตูระบายน้ำอาจารย์พุฒ
อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนลำพระเพลิง มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ด้านโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง ได้นำเครื่องจักรและรถแบ็คโฮเข้าไปดำเนินการกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำบริเวณหน้าประตูระบายน้ำบ้านสุขัง ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย เพื่อเร่งระบายน้ำแล้ว
สำหรับความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนลำพระเพลิง นั้น กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดพฤติกรรมเขื่อน และมีการตรวจสอบสภาพความมั่นคงของเขื่อนอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี จึงยืนยันได้ว่าเขื่อนลำพระเพลิง มีความมั่นคงแข็งแรงดี สามารถเก็บกักน้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยไม่ส่งผลต่อพื้นที่ด้านท้าย ขอให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามสถาณการณ์น้ำและสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด