นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีมีคำสั่งศาลให้การปิดกั้นการเข้าถึงเว็บลามกอนาจารจำนวน 191 URLs ว่า เป็นเว็บไซต์ที่ผิดกฏหมายมีคนร้องเรียนมาจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รวบรวมหลักฐานเพื่อปิดกั้นกว่า 190 URLs โดยทยอยรวบรวมหลักฐานมาเรื่อยๆ จนกระทั่งนำไปสู่ขั้นตอนการปิดเว็บตามปกติ
แต่เนื่องจากเว็บอนาจารมาจากต่างประเทศ อาจจะเป็นเว็บที่ถูกกฏหมายในหลายประเทศแต่ผิดกฏหมายไทย จึงใช้การปิดกั้นการเข้าถึงในประเทศไทย ซึ่งเมื่อได้คำสั่งศาลแล้วจึงส่งคำสั่งให้โอเปอร์เรเตอร์และ ISP ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ทำการปิดการเข้าถึงในประเทศตามกฏหมายไทย แต่ในต่างประเทศยังเข้าได้ตามปกติ
"เราบังคับใช้กฏหมาย ซึ่งเข้าใจในวิธีคิดของทุกคน แต่ต้องขอความเห็นใจ ไม่ได้คิดเอง แต่เป็นการดำเนินการตามกฏหมาย ทำตามหน้าที่ โดยหน้าที่แล้วก็ต้องทำ โดยส่งศาลตามปกติ ไม่ได้ใช้อำนาจของตัวเองหรือของกระทรวง เราทำตามกฎหมาย"นายพุทธิพงษ์ กล่าว
รมว.ดีอีเอส ยังย้ำด้วยว่า มีพ่อแม่ผู้ปกครอง ผู้ใหญ่ที่เป็นห่วงเยาวชนแจ้งร้องเรียนเว็บลามกอนาจารเข้ามาเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องเคร่งครัดตามกฏหมาย เป็นการทำตามหน้าที่ เพราะกฏหมายไทยเป็นแบบนี้ และกระทรวงดิจิทัลฯ ต้องดูแลประชาชนโดยเฉพาะบุตรหลานที่เป็นอนาคตของชาติ
ทั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่เว็บลามกอนาจารเท่านั้น แต่รวมไปถึงเว็บพนันออนไลน์ด้วย โดยเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างจริงจังต่อเนื่อง ล่าสุด ได้ปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์ไปแล้วกว่า 2,000 เว็บไซต์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการเข้าจับกุมนำตัวผู้กระทำความผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ส่วนเว็บลามกอนาจารส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ จึงทำได้เพียงปิดกั้นการเข้าถึงเท่านั้น