คณะกรรมการเพื่อเตรียมการศึกษาความเหมาะสมการผลิตไฟฟ้า คาดร่างแผนโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะเสร็จทันตามกำหนด โดยจะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)พิจารณาในเดือน ต.ค.นี้
นายกอปร กฤตยากีรณ ประธานคณะกรรมการเพื่อเตรียมการศึกษาความเหมาะสมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้การยกร่างแผนการเตรียมจัดทำโครงสร้างพื้นฐานพลังงานนิวเคลียร์เพื่อการผลิตไฟฟ้ามีความคืบหน้าไปมากแล้ว คาดว่าเสร็จทันกำหนดและเสนอให้กพช.พิจารณาในเดือนต.ค.นี้ หลังจากนั้นจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ตั้งใจจะยกร่างแผนการเตรียมจัดทำโครงสร้างพื้นฐานพลังงานนิวเคลียร์ให้สมบูรณ์และปฏิบัติให้ได้มากที่สุด โดยผู้แทนของคณะกรรมการฯ จะเดินทางไปประชุมร่วมกับ IAEA ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อหารือการคัดเลือกผู้ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มาช่วยเสนอแนะข้อคิดเห็นต่อการร่างแผนฯ ในเดือน ส.ค.นี้
IAEA จะส่งผู้เชี่ยวชาญรวม 4 คนมาให้คำปรึกษาและคำแนะนำให้กับคณะกรรมการฯ เพื่อทบทวนปรับปรุงร่างแผนการจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานนิวเคลียร์ให้สมบูรณ์ ปลอดภัย และคุ้มค่ากับการลงทุน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของรัฐบาลว่าจะเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หรือไม่
สำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จำเป็นต้องใช้เวลานานไม่ต่ำกว่า 13 ปี ตั้งแต่เริ่มวางแผน โดยต้องใช้เวลาเตรียมการศึกษาความเหมาะสมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ และวางแผนเตรียมดำเนินการและออกแบบโรงไฟฟ้า 6 ปี และดำเนินการก่อสร้างอีก 6 ปี ทั้งนี้ภาครัฐจะต้องเร่งสร้างบุคลากรทางด้านนี้ขึ้นมารองรับให้เพียงพอ เพราะประเทศไทยยังขาดแคลนบุคลากรอยู่จำนวนมาก เพื่อให้โครงการไฟฟ้านิวเคลียร์ของไทยดำเนินไปอย่างมีคุณภาพ มีความปลอดภัยสูงสุด ได้ประโยชน์คุ้มค่า ทั้งด้านการเสริมความมั่นคงทางพลังงาน การชะลออัตราเพิ่มของราคาค่าไฟฟ้า และการช่วยต่อสู้กับภาวะโลกร้อนอีกด้วย
คณะกรรมการเพื่อเตรียมการศึกษาความเหมาะสมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมางาน 6 ชุด ได้แก่ คณะอนุกรรมการด้านระบบกฎหมาย ระบบกำกับและข้อผูกพันระหว่างประเทศ, คณะอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์, คณะอนุกรรมการด้านการถ่ายทอด พัฒนาเทคโนโลยีและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์, คณะอนุกรรมการด้านความปลอดภัยและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม, คณะอนุกรรมการด้านการสื่อสารและการยอมรับของสาธารณชน และคณะอนุกรรมการวางแผนดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
ส่วนประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมที่หลายฝ่ายได้แสดงความเป็นห่วง คณะกรรมการฯได้มีแผนดูแลความพร้อมในด้านความปลอดภัยและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเอาไว้แล้ว เช่น ในช่วงเดินเครื่องโรงไฟฟ้าจะต้องจำกัดการปล่อยสารกัมมันตรังสีในชั้นบรรยากาศอย่างเคร่งครัด, การตรวจสภาพท่อน้ำและสายส่งไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าไม่ให้มีจุดรั่วไหลในช่วงเปิดเดินเครื่องโรงไฟฟ้า
ปัจจุบัน ประเทศต่างๆ ในโลกได้มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์เป็นจำนวนมากรวม 31 ประเทศ มีเตาปฏิกรณ์ปรมาณูเพื่อผลิตไฟฟ้าจำนวนรวมกันกว่า 437 เตา เช่น สหรัฐอเมริกามี 103 เตา, ฝรั่งเศส 59 เตา, ญี่ปุ่น 55 เตา, เกาหลีใต้ 20 เตา, อินเดีย 17 เตา, จีน 11 เตา, ไต้หวัน 6 เตา, ปากีสถาน 2 เตา นอกจากนี้ยังมีเตาปฏิกรณ์ปรมาณูที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 30 เตา และมีแผนจัดตั้งแน่นอนแล้วอีก 74 เตา
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--