พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) มอบนโยบายให้สำนักพัฒนาสังคม สำนักอนามัย สำนักการแพทย์ และสำนักงานเขต ร่วมกันหาพื้นที่ที่จะสามารถสร้างบ้านพักคนชราเพิ่มเติม รวมถึงรูปแบบการบริการให้ครบวงจร โดยเฉพาะที่ดินใกล้ศูนย์บริการสาธารณสุขหรือโรงพยาบาล
ปัจจุบัน กทม.มีบ้านพักคนชราในการดูแลเพียง 1 แห่งเท่านั้น คือ บ้านบางแค 2 เขตบางแค รองรับผู้สูงอายุได้เพียง 140 คน ซึ่งมองว่าน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับจำนวนผู้สูงอายุทั้งหมดที่มีอยู่ในกรุงเทพฯ จำนวนกว่า 1 ล้านคน หรือคิดเป็น 17.8% ของประชากรกรุงเทพฯ ที่กำลังจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุเร็วๆ นี้ ที่สำคัญผู้สูงอายุบางคนไม่มีลูกหลานหรือญาติดูแล บางคนมีก็เหมือนไม่มี โดดเดี่ยว และยังมีผู้สูงอายุติดเตียงที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิดด้วย
กทม.จึงมีแผนจะเพิ่มเติมบ้านพักคนชรากระจาย 5 มุมเมือง หรืออย่างน้อยต้องเริ่มให้ได้ก่อน 1 แห่งในฝั่งพระนคร ซึ่งมีพื้นที่เขตถึง 35 เขต แต่ยังไม่มีบ้านพักคนชราเลย มีเพียงศูนย์บริการผู้สูงอายุดินแดง ซึ่งเป็นศูนย์บริการผู้สูงอายุแบบไป-กลับ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้ออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน เช่น กายภาพบำบัด สวดมนต์ กีฬา ดนตรี ศิลปะ ร้องเพลง ธาราบำบัด และได้พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้กับคนอื่นๆ เพื่อให้มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง ไม่ให้เป็นผู้สูงอายุติดบ้านซึ่งจะนำไปสู่ภาวะติดเตียงได้
โดยขณะนี้ กทม.ได้สำรวจที่ดินทั้งที่เป็นกรรมสิทธิ์ของกทม. และของหน่วยงานต่างๆ ที่มีพื้นที่ขนาด 4-5 ไร่ เพื่อจะจัดสร้างบ้านพักคนชราเพิ่มเติม ก็ดูไว้หลายที่ครับ เช่น ที่เขตบางบอน เขตดอนเมือง เขตหนองจอก เขตดินแดง แม้บางแห่งจะเป็นกรรมสิทธิ์ของกทม.แต่ก็ติดที่วัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ที่ตั้งใจอุทิศที่ดินให้กับราชการเพื่อเป็นสถานศึกษา และอื่นๆ ซึ่งกทม.ได้ทำหนังสือขออนุญาตใช้พื้นที่ไปแล้วอยู่ระหว่างรอการพิจารณา