ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 3 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักใน State Quarantine 2 ราย คือ มาจากสหราชอาณาจักร 1 ราย และตุรกี 1 ราย ส่วนอีก 1 รายมาจากสหราชอาณาจักร และตรวจคัดกรองได้ที่ด่านควบคุมโรค
รายที่ 1 เพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 40 ปี อาชีพแม่บ้าน เดินทางมาจากตุรกี ถึงไทยวันที่ 4 พ.ย.63 เข้าพักที่ Alternative State Quarantine (ASQ) ในกรุงเทพฯ ตรวจหาเชื้อวันที่ 9 พ.ย. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ รักษาตัวที่ รพ.เอกชน
รายที่ 2 เพศหญิง สัญชาติอังกฤษ อายุ 62 ปี เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร ถึงไทยวันที่ 8 พ.ย.63 ตรวจคัดกรองจากด่านควบคุมโรค ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผลพบเชื้อ มีอาการไข้ 37.8 องศา ไอ และมีน้ำมูก รักษาตัวที่ รพ.เอกชน
รายที่ 3 เพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 58 ปี เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร ถึงไทยวันที่ 9 พ.ย. เข้าพักใน Alternative State Quarantine (ASQ) ในกรุงเทพฯ ตรวจหาเชื้อวันที่ 9 พ.ย. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ รักษาตัวที่ รพ.เอกชน
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 3,847 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,453 ราย และผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 1,394 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก 15 ราย รวมเป็น 3,685 ราย ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 102 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมที่ 60 ราย
ส่วนสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในทั่วโลก ล่าสุดมียอดผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมด 51,805,339 ราย เสียชีวิต 1,279,184 ราย โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 5 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 10,559,184 ราย อันดับสอง อินเดีย 8,635,754 ราย อันดับสาม บราซิล 5,701,283 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 1,829,659 ราย และอันดับห้า รัสเซีย 1,817,109 ราย
ทั้งนี้ มีประเด็นในต่างประเทศที่น่าสนใจ คือ สถานการณ์ในจีนขณะนี้เตรียมยกระดับมาตรการควบคุมอาหารนำเข้า เนื่องจากหวั่นเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 โดยคณะทำงานของกลไกป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 แห่งคณะรัฐมนตรีจีน ได้เผยแพร่แผนดำเนินการควบคุมการนำเข้าอาหารแบบห่วงโซ่วงปิด ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อลดทอนความเสี่ยงที่อาหารเหล่านั้นจะนำโรคโควิด-19 เข้าสู่ประเทศ
ภายใต้แผนดังกล่าว จีนจะดำเนินการฆ่าเชื้อผลิตภัณฑ์อาหารแช่แย็นนำเข้าอย่างสมบูรณ์ พร้อมทำการตรวจหาเชื้อไวรัสที่ท่าเรือ เพื่อสกัดกั้นการเกิดไวรัสระบาดผ่านห่วงโซ่ความเย็นในอุตสาหกรรมอาหารนำเข้า (cold-chain foods) อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกัน ก็ต้องทำการฆ่าเชื้อภายในรถขนส่งและบรรจุภัณฑ์ด้านนอกของอาหารแช่เย็นนำเข้า แม้จะมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบก่อนดำเนินการขนส่งทุกครั้ง ส่วนอาหารที่มีผลตรวจเป็นบวก จะต้องถูกทำลายหรือส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง