"พายุดีน"พัดถล่มเม็กซิโก ส่งผลกระทบแหล่งอุตสาหกรรมน้ำมันจำนวนมาก

          พายุเฮอร์ริเคนดีนได้เคลื่อนตัวเข้าสู่แผ่นดินเม็กซิโกแล้ว และได้พัดถล่มแหล่งผลิตน้ำมันหลายแห่งในอ่าวเมืองแคมเปเช่ ขณะที่มีกำลังแรงขึ้นและพัดผ่านคาบสมุทรยูคาทัน
          นายฟิเดล เฮอร์เรล่า ผู้ว่าการรัฐเวอราครูซกล่าวว่า ทางการได้อพยพผู้คนกว่า 10,000 คนออกจากเมืองทักซ์แพน ซึ่งเป็นพื้นที่ชายฝั่งของเม็กซิโก ก่อนที่พายุลูกดังกล่าวจะพัดถล่มในช่วงบ่าย และทางการได้สั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งทั่วรัฐ
          พายุดีนได้เคลื่อนตัวผ่านคาบสมุทรยูคาทันของเม็กซิโกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่ได้เคลื่อนตัวเข้าหาแผ่นดินและพัดถล่มอย่างรุนแรง ส่งผลให้ต้นไม้ สายไฟฟ้าและบ้านเรือนโค่นล้มและเสียหายจำนวนมาก ยกเว้นรีสอร์ทสุดหรูบนเกาะมายัน ริวิเอร่า ที่ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ ซึ่งหากพิจารณาจากสภาพฝนที่ตกหนัก การสื่อสารขัดข้องและถนนตัดขาด ก็เป็นที่สงสัยว่าชุมชนบนเกาะมายันซึ่งอยู่ท่ามกลางต้นไม้หนาทึบนั้นรอดพ้นมาได้อย่างไร ขณะที่ภัยจากพายุดีนได้คร่าชีวิตผู้คนในทะเลแคริบเบียนไปแล้ว 13 คน
          หลังจากนั้นพายุดีนได้อ่อนกำลังลง และได้เคลื่อนตัวข้ามอ่าวแคมเปเช่ ทางตอนใต้ของอ่าวเม็กซิโก ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำมันกว่า 100 แห่ง อ่าวส่งออกน้ำมันสำคัญๆอีก 3 แห่ง และเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำมันแคนทาเรลล์ ซึ่งสามารถผลิตน้ำมันได้มากที่สุดของเม็กซิโก
          ทั้งนี้ บ่อน้ำมันทั้งหมดในพื้นที่ได้ถูกปิดตัวลงก่อนที่พายุลูกดังกล่าวจะพัดถล่ม ซึ่งส่งผลให้ผลผลิตน้ำมันเฉลี่ยรายวันลดลง 2.7 ล้านตัน และก๊าซธรรมชาติที่ระดับ 2.6 พันล้านลูกบาศก์เมตร
          นายจอร์จ คาร์ลอส เฮอร์ทาโด ผู้ว่าการรัฐแคมเปเช่กล่าวต่อสถานีโทรทัศน์เทเลวิซ่าของเม็กซิโกว่า พื้นที่ 70% ของเมืองซิอูดัด เดล คาร์เมน ได้ถูกน้ำท่วมเมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ผ่านมา