นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวก่อนเข้าประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ถึงการพิจารณาลดวันกักตัวเหลือ 10 วันว่า ทุกอย่างต้องคำนึงถึงความสะดวกและความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก โดยต้องพิจารณาอย่างรอบคอบทุกมิติ เพื่อหาความสมดุลที่สุด
ส่วนข้อเสนอขยาย พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปอีก 45 วันนั้น ยังไม่เห็นรายละเอียด ซึ่งต้องฟังการนำเสนอถึงเหตุผลและความจำเป็นจากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วเบื้องต้นก่อน ซึ่งมองว่า ที่ผ่านมามีการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี และไม่กระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน
"การประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่เดือนมี.ค.จนถึงปัจจุบัน ไม่ได้คุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน และเห็นผลว่าสามารถควบคุมโรคได้ดี เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศแถบยุโรปที่มีการติดเชื้อจำนวนมาก ดังนั้นจึงจะประมาทไม่ได้" รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุขกล่าว
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า การขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามผู้ชุมนุมตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน ซึ่งรัฐบาลไม่มีแนวคิดเช่นนั้นเด็ดขาด เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน พร้อมขอให้ทุกคนเคารพกฎหมายแล้วทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ ขณะที่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ก็พร้อมแก้ไขและรับฟังเสียงของประชาชน
ทั้งนี้ ยอมรับว่า เป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมเมื่อวานนี้ที่มวลชน 2 กลุ่มปะทะกัน โดยขอให้ชุมนุมด้วยความสงบให้มากที่สุด ซึ่งส่วนตัวเข้าใจและเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น พร้อมขอให้ผู้ชุมนุมทุกคนสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วย
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในช่วงต้นการประชุม ศบค. โดยเน้นย้ำถึงการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า ต้องไม่ประมาท ต้องคำนึงถึงด้านสาธารณสุข และการฟื้นฟูเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ศบค.วันนี้ จะมีการเสนอข้อมูลทางด้านสาธารณสุข ในการลดมาตรการการกักตัว จาก 14 วัน เหลือ 10 วัน ขณะเดียวกันจะรับทราบความคืบหน้าการศึกษาวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศไทย ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองในสัตว์ ยังไม่ได้ทดลองในมนุษย์ รวมถึงความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่ล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบกลาง 6,049 ล้านบาท ให้กระทรวงสาธารณสุชสั่งจองวัคซีนโควิด-19 จากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 26 ล้านโดส
พร้อมกันนี้ จะมีการเสนอขยายเวลาการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 45 วัน เพื่อเป็นกลไกในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ต่อเนื่องไปจนถึงเทศกาลปีใหม่ จากปัจจุบันที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะครบกำหนดในวันที่ 30 พ.ย.63 ดังนั้นหากขยายเวลาออกไปอีก 45 วัน ก็จะสิ้นสุดในวันที่ 15 ม.ค.64 ซึ่งหากที่ประชุม ศบค.เห็นชอบ ก็จะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า
ส่วนช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ.ด้วย