พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรับมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารการบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ทั่วประเทศ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์ สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้กำชับคณะกรรมการฯ ให้กำกับ ติดตาม การดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนงานโดยเคร่งครัด พร้อมสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งดำเนินการ ตามแผนปฏิบัติการที่ผ่านความเห็นชอบแล้วอย่างเร่งด่วน เพื่อให้การเชื่อมโยงระบบกล้อง CCTV ทั่วประเทศ เกิดการบูรณาการข้อมูลได้มาตรฐาน สามารถใช้ดูแล รักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน และสามารถป้องปรามการก่อเหตุร้ายทั่วประเทศ เน้นพื้นที่การจราจร และตามแนวชายแดน รวมถึงช่องทางธรรมชาติให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามนโยบายของรัฐบาล
โดยที่ประชุมฯ ได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 2 เม.ย.63 โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้มอบหมายให้ บมจ.กสท.โทรคมนาคม ทดสอบการเชื่อมโยงระบบกล้อง CCTV ของ 7 หน่วยงาน จำนวน 350 ตัวเข้าสู่ระบบบริหารจัดการส่วนกลาง และสามารถเชื่อมโยงระบบกล้อง CCTV ได้เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย กรมศุลกากร 10 ตัว, การทางพิเศษแห่งประเทศไทย 10 ตัว, กองบัญชาการตำรวจนครบาล 10 ตัว, กรมท่าอากาศยาน 24 ตัว, ท่าอากาศยานดอนเมือง 38 ตัว ,ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 12 ตัว และกรุงเทพฯ 246 ตัว
นอกจากนี้ยังรับทราบความคืบหน้าการตรวจสอบข้อมูลระบบกล้อง CCTV ทั่วประเทศจำนวน 60 จังหวัด คงเหลืออีก 17 จังหวัด และรับทราบความคืบหน้าการขับเคลื่อนการนำร่องโครงการบูรณาการระบบกล้อง CCTV ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ และด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว รวมถึงรับทราบผลการศึกษาระบบกล้อง CCTV ในพื้นที่จังหวัดชยแดนภาคใต้ ซึ่งพบว่ารูปแบบการ เชื่อมโยงระบบกล้อง CCTV ในพื้นที่ดังกล่าวได้ดำเนินการเป็นรูปธรรมแล้ว และมีความสอดคล้องกับรูปแบบ/หลักการเชื่อมโยงระบบกล้อง CCTV ทั่วประเทศ
ที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบแผนปฏิบัติการการเชื่อมโยงระบบกล้อง CCTV ทั่วประเทศ พ.ศ.2563-2565 เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความต่อเนื่อง โดยให้ สตช.และ มท. ดำเนินงานเพื่อให้การเชื่อมโยงระบบกล้อง CCTV ทั่วประเทศ เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมถึงเห็นชอบ หลักเกณฑ์ และคู่มือการจัดหาระบบกล้อง CCTV ในพื้นที่ด้วย