กอนช. เร่งระบายน้ำท่วมขังพื้นที่ภาคใต้ หลังสัญญาณฝนลดลงช่วง 4-8 ธ.ค.นี้

ข่าวทั่วไป Thursday December 3, 2020 16:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ว่า จากการติดตามสภาพอากาศ พบว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปถึงวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ฝนจะลดลงอย่างมากจากอิทธิพลลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยอ่อนกำลังลง ซึ่งจะเป็นโอกาสดีที่จะเร่งการระบายมวลน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว เพื่อลดผลกระทบในพื้นที่น้ำท่วมขัง

ขณะที่มีคาดการณ์แนวโน้มฝนที่จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.63 แต่ปริมาณฝนจะไม่รุนแรง เป็นเพียงฝนระดับปานกลาง โดยจะตกหนักเป็นแห่งๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนคาดการณ์ปริมาณฝนภาพรวมในระยะ 3 เดือนต่อจากนี้ (ธ.ค.63-ก.พ.64) ภาคใต้จะมีฝนมากกว่าค่าปกติประมาณ 20% แบ่งเป็น ภาคใต้ฝั่งตะวันออกประมาณ 350-530 มิลลิเมตร (ค่าปกติ 368 มม.) ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ประมาณ 100-210 มิลลิเมตร (ค่าปกติ 129 มม.) ซึ่งต้องติดตาม เฝ้าระวัง เตรียมแผนป้องกันผลกระทบอย่างต่อเนื่องด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่น้ำท่วมในปัจจุบันด้วย

โดยขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อาทิ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทาน และหน่วยงานในจังหวัด ได้เร่งระดมเครื่องจักรเครื่องมือในการเร่งผลักดันน้ำ สูบน้ำเร่งระบายออกจากพื้นที่เกษตร รวมถึงชุมชน ตัวเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจให้กลับเข้าสู่ลำน้ำต่างๆ โดยเร็ว พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งคาดว่าหากปริมาณฝนลดลงจะช่วยทำให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์และวาตภัย ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ปัจจุบันคงเหลือพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัยใน 7 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส รวม 62 อำเภอ 323 ตำบล 2,186 หมู่บ้าน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ควบคู่ไปกับการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังโดยเร็ว ซึ่งจากการติดตามภาพถ่ายดาวเทียมของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ Gistda เมื่อเทียบกับวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า พื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังเริ่มลดลงในหลายพื้นที่ เช่น จ.นครศรีธรรมราช ลดลงกว่า 6 หมื่นไร่ โดยปัจจุบันมีพื้นที่น้ำท่วมจำนวน 153,852 ไร่ ซึ่ง อ.หัวไทร และร่อนพิบูลย์ ยังคงมีพื้นที่น้ำท่วมมากที่สุด ขณะที่ จ.สงขลา ลดลงประมาณ 15,000 ไร่ ปัจจุบันมีพื้นที่น้ำท่วมอยู่ที่ 62,000 ไร่ โดย อ.ระโนด ได้รับผลกระทบมากที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ