เพจของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลนับตั้งแต่การประกาศรายชื่อผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่ 24 พ.ย.63 จนถึงขณะนี้มีผู้ถูกดำเนินคดีในข้อหามาตรา 112 แล้วทั้งสิ้น 33 รายใน 20 คดี โดยสถิตินี้นับคดีที่ผู้ได้รับหมายเรียกไม่ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาด้วย
จากจำนวนคดีทั้งหมด มี 6 คดีที่เป็นการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมจากคดีเดิม ได้แก่ คดีชุมนุม #เด็กพูดผู้ใหญ่ฟัง ศาลหลักเมืองอุบลราชธานีเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 63, คดีชุมนุม #เจาะกะลาตามหาบักคำผาน ลานหน้าบึงพลาญชัย จ.ร้อยเอ็ดเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 63, คดีชุมนุม #คนนนท์ไม่ทนเผด็จการ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 63, คดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสนามหลวงเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 63, คดีชุมนุม #ไปสภาไล่ขี้ข้าศักดินา ที่หน้ารัฐสภา เมื่อ 24 ก.ย. 63, และคดีชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนีเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 63
ทั้งนี้ แกนนำถูกดำเนินคดีทั้งหมด ดังนี้ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ 9 คดี, นายอานนท์ นำภา 6 คดี, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล 4 คดี, นายภาณุพงศ์ จาดนอก 2 คดี
ส่วนบุคคลอื่นที่ถูกดำเนินคดี ได้แก่ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม, น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์, น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล, นายชนินทร์ วงษ์ศรี, นายเกียรติชัย ตั้งภรณ์พรรณ, นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี, นายกรกช แสงเย็นพันธ์, นายชลธิศ โชติศักดิ์, น.ส.เบญจา อะปัน, นายวัชรากร ไชยแก้ว, นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา, นายอรรถพล บัวพัฒน์, นายอัครพล ตีบไธสง, น.ส.สุธินี จ่างพิพัฒนวกิจ, น.ส.รวิศรา เอกสกุล, นายโจเซฟ (สงวนชื่อสกุลจริง), น.ส.เอ (สงวนชื่อสกุลจริง), เยาวชนอายุ 16 ปี, น.ส.จตุพร แซ่อึง, น.ส.อินทิรา เจริญปุระ, น.ส.ณัฎฐธิดา มีวังปลา, นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง, นายชูเกียรติ แสงวงค์, นายสิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ, นายสมบัติ ทองย้อย, นายพงศธรณ์ ตันเจริญ และ นายนรินทร์ (สงวนนามสกุล)