พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบใหม่ว่า อาจจำเป็นต้องประกาศมาตรการเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมเฉลิมฉลองปีใหม่ว่าจะมีมาตรการอย่างไร หรือ ต้องงดจัด โดยจะประชุมกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (ศบค.) ในสัปดาห์นี้เพื่อออกมาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์
หลายประเทศตอนนี้ เริ่มกลับไปใช้มาตรการที่เข้มงวด มากมายหลายมาตรการ ทั้งการบังคับไม่ให้ประชาชนออกจากบ้าน การออกข้อกำหนดมากมายสำหรับคนที่ต้องการเข้าประเทศ ร้านค้าร้านอาหารส่วนใหญ่ต้องปิด รวมถึงสถานที่บันเทิงและสถานที่สาธารณะต่างๆ ก็ต้องปิดด้วย หรือในบางประเทศ อย่างฝรั่งเศส ถึงขั้นห้ามไม่ให้มีการขนส่งสิ่งของ เข้าและออกประเทศเป็นการชั่วคราว
"ผมเข้าใจดี ทุกคนต้องการผ่อนคลาย ธุรกิจร้านค้าก็อยากมีรายได้...แต่ในเมื่อเราได้เห็นมาแล้วว่าถ้าเราอ่อนหรือผ่อนคลายมาตรการมากเกินไป โควิดจะสร้างปัญหาทางเศรษฐกิจที่มากกว่านี้ และกระทบกันไปหมดทั้งประเทศ"นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อต้นปี ตอนที่โควิดเริ่มเป็นภัยร้ายแรงของโลก มีประเทศที่ไม่เข้มงวดปกป้องดูแลเรื่องสุขภาพและสาธารณสุขด้วยเพราะกังวลว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของตัวเอง ปัจจุบันประเทศเหล่านี้ล้วนเจอผลกระทบหนักต่อเศรษฐกิจทั้งสิ้น เพราะสุดท้ายแล้วการระบาดของโควิด ทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ เมื่อคนเป็นโควิดเยอะ สุดท้ายก็สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจอยู่ดี เพราะฉะนั้นชัดเจนมากว่าการเข้มงวดเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน และสาธารณสุขของประเทศ เป็นวิธีที่จะปกป้องความเสียหายต่อเศรษฐกิจไม่ให้รุนแรงมากกว่าที่เรากำลังเจออยู่
สำหรับการระบาดใหม่ของโควิด-19 ที่เพิ่งเกิดขึ้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ได้ถูกจัดการอย่างเร่งด่วนในทันที พร้อมกับการใช้มาตรการที่เข้มข้น ซึ่งเป็นสิ่งย้ำเตือนที่สำคัญว่าโควิด-19 ยังเป็นภัยร้ายแรงสำหรับประเทศของเรา และในช่วงเวลาเดียวกัน สถานการณ์โควิดทั่วโลกก็ดำดิ่งลงสู่ความหนักหนาสาหัสที่รุนแรงและกระทันหันด้วย
การที่สถานการณ์โควิดทั่วโลกแย่ลงขนาดนี้ ย่อมจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีมาถึงประเทศไทยด้วยแน่นอน และเราต้องเตรียมพร้อมในการรับมือ ผลกระทบอย่างแรกคือเศรษฐกิจทั่วโลกจะยิ่งฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ที่จะช้ากว่าที่คาดการณ์ ตามไปด้วย
และ ผลกระทบอย่างที่สอง คือเราจะยังคงต้องระมัดระวังมาตรการการผ่อนคลายให้คนต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยต่อไปอีก เมื่อสถานการณ์โควิดนอกประเทศยังแย่ หากคนต่างชาติที่เข้าประเทศไทยก็จะนำเชื้อโควิดเข้ามาด้วย ซึ่งจะสร้างปัญหาให้กับระบบสาธารณสุขของไทย และสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจมากกว่าที่เราเจออยู่อีกหลายเท่า จึงต้องเข้มงวดและระมัดระวังอย่างเต็มที่ในทุกช่องทาง เพราะหากมีผู้ติดเชื้อโควิดเล็ดลอดเข้ามาได้เพียงไม่กี่คนก็จะสร้างปัญหากับคนนับแสน
ผลกระทบอย่างที่สาม คือ เมื่อสถานการณ์ทั่วโลกยิ่งแย่ลง ก็ทำให้เราต้องตั้งการ์ดให้สูงขึ้น เพิ่มและปรับมาตรการต่างๆ ให้มีความรัดกุมยิ่งขึ้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้มาจากคนเพียงไม่กี่คนที่ละเลยความรับผิดชอบต่อสังคม และมีพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัว จะสร้างปัญหาให้คนเป็นล้านได้ จึงขอให้คนไทยทุกคนใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมในระดับที่สูงมากกว่าปกติ เพราะสิ่งที่ทุกคนทำ ทุกวัน ทุกวัน แม้จะดูเล็กน้อย แต่มีผลกับทั้งประเทศ สร้างความแตกต่างให้ประเทศไทยได้ และทุกคนได้มีส่วนช่วยกันทำให้ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าอีกหลายประเทศ
ในส่วนของขบวนการนำแรงงานเถื่อนเข้าประเทศนั้น จะต้องถูกดำเนินคดี ถูกทำลายให้สิ้นซาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ หรือประชาชนที่เกี่ยวข้อง เพราะการแพร่ระบาดครั้งนี้ ตรวจพบผู้ติดเชื้อจากแรงงานต่างด้าวมากที่สุด
แม้ว่าเส้นทางจะยังอีกยาวไกลกว่าสถานการณ์จะกลับเป็นปกติ แต่ผมมั่นใจว่า ถ้าเราทุกคนยังร่วมมือกันแบบนี้ได้ เราจะยังเป็นหนึ่งในประเทศที่รับผลกระทบน้อยที่สุดในโลก เราเป็นประเทศที่ประชาชนรู้ว่าเราพึ่งพาตัวเองได้ และเราก็หวังพึ่งพาคนอื่นๆ ในสังคมได้ด้วย ให้ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด "จะยังกำชับดูแลให้มั่นใจว่าหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ จะยังคงทำงานแบบบูรณาการ และใกล้ชิดกัน ผมจะกำชับดูแลให้ทุกฝ่ายยึดมั่นรับฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุข และจะยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องต่อไป ในการเร่งจัดหาและพัฒนาวัคซีนให้พร้อมใช้งาน เร็วที่สุดเท่าที่จะเร่งได้ หลังจากที่เราประสบความสำเร็จมาแล้ว ในการเจรจาให้ผู้พัฒนาวัคซีนที่ดีที่สุดในโลกรายหนึ่ง ตกลงมาตั้งศูนย์ผลิตวัคซีนในประเทศไทย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว