พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) ว่า ขอให้ทุกเขตเร่งรัดตรวจสอบโรงงาน สถานบริการ สถานประกอบการ ไซต์งานก่อสร้างในพื้นที่ที่มีแรงงานต่างด้าวทำงานอยู่ เพื่อตรวจคัดกรอง รวมทั้งหาข้อมูลแรงงานต่างด้าว ทั้งด้านจำนวนและความเสี่ยงสำหรับนำมาวางแผนการดำเนินงานควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19
นอกจากนี้ ได้กำชับให้ด่านสกัดการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งขึ้น ใน 5 เส้นทาง ได้แก่ ถนนเพชรเกษม ถนนเอกชัย ถนนพระรามที่ 2 ถนนบรมราชชนนี และถนนเลียบคลองพิทยาลงกรณ์ ตลอด 24 ชม. อีกทั้งให้เข้มงวดการตรวจยานพาหนะต่างๆ หากพบว่ามีแรงงานต่างด้าวโดยสารมา ให้ดำเนินการตามขั้นตอนมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด
ตลอดจนกำชับให้คณะทำงานประสานงานดูแลความสงบเรียบร้อย และสำนักงานเขตเข้มงวดการตรวจแนะนำสถานบริการ สถานประกอบการ และสถานที่ต่างๆ ให้ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่กรุงเทพมหานครได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 63 อย่างเคร่งครัด ทั้งในด้านการรักษาระยะห่าง บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ หมั่นทำความสะอาดสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการใช้แพลตฟอร์ม "ไทยชนะ"
ที่ประชุมได้ขอให้หน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มข้น 100% เหมือนที่เคยปฏิบัติในช่วงการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ก่อนหน้านี้ และให้บุคลากรของกรุงเทพมหานครที่คาดว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง อาทิ ผู้มีที่พักอาศัยในจังหวัดสมุทรสาคร หรือผู้ที่เคยเดินทางไปจังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.63 เป็นต้นมา เข้าสู่ระบบคัดกรอง BKK Covid-19 ทุกคน เพื่อสำนักอนามัยจะเข้าไปตรวจคัดกรองอย่างละเอียดต่อไป
รวมทั้งให้โรงพยาบาลในสังกัดและศูนย์บริการสาธารณสุข เตรียมพร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ยา เวชภัณฑ์ให้พร้อมรับมือกรณีเกิดการแพร่ระบาดลุกลามขยายวงกว้าง ให้สำนักงานเขตและศูนย์บริการสาธารณสุขขอความร่วมมือประชาชนในชุมชนและอาสาสมัครสาธารณสุขในพื้นที่ เฝ้าระวัง ตรวจสอบหากมีแรงงานต่างด้าวแปลกหน้าในชุมชน ให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง