พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่ว่า ศบค.ยกระดับความเข้มข้นเพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ด้วยการแบ่งกลุ่มจังหวัดตามความรุนแรงของสถานการณ์ เพื่อกำหนดมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดจะเป็นผู้กำหนดมาตรการต่าง ๆ
ทั้งนี้ การดูแลพื้นที่เสี่ยงจะเป็นไปตามสถานการณ์ความรุนแรงในแต่ละระดับ เช่น จังหวัดสมุทรสาคร ก็ไม่ได้ครอบคลุมไปทั้งจังหวัด
"ที่ประชุมกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ แล้วมอบอำนาจให้ผู้ว่าฯ ตัดสินใจบริหารความเสี่ยง ไม่อยากให้ตื่นตระหนก พยายามให้ทุกอย่างไปด้วยกันทั้งเรื่องสาธารณสุข และเศรษฐกิจ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับการระบาดรอบใหม่ เพราะเป็นเรื่องที่เราต้องอยู่กับเชื้อไวรัสโควิดกันต่อไปจนกว่าจะมีวัคซีน และจะต้องดูแลเศรษฐกิจให้เดินต่อไปได้ โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะดูแลสถานการณ์อย่างเต็มที่ และกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่ามีความพร้อมทั้งยาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ หลังจากนี้ก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกคนทั้ง 70 ล้านคน
"ถ้าทุกคนปฏิบัติตามคำแนะนำ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่าง ไม่ตะโกนเสียงดังก็ช่วยได้ เพื่อหยุดการรับเชื้อและแพร่เชื้อ ถ้าไปพื้นที่เสี่ยงก็เฝ้าระวัง ไม่สบายใจก็ไปตรวจ ไม่เห็นต้องให้ไปบังคับเลย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
และในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้าจะมีการพิจารณาให้แรงงานด่างด้าวผิดกฎหมายสามารถทำงานได้ต่อ เพื่อให้แรงงานเหล่านี้ข้าสู่ระบบคัดกรองที่ถูกต้อง หลังจากพบว่าเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดรอบใหม่ในครั้งนี้
"จะดูแลให้เป็นธรรม ไม่ได้โทษใคร แต่ให้ไปตรวจสอบทุจริตตามที่มีข่าวเพื่อคลายข้อสงสัย และเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ จัดเข้าระบบให้ถูกต้อง รัฐบาลดูแลเต็มที่" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว