นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ(ขอ.) ระบุไม่ต้องการให้นำประเด็นความขัดข้องของเครื่องมือตรวจอากาศระบบวินเชียร์(เครื่องตรวจการเปลี่ยนแปลงทิศทางหรือความเร็วของลมในระยะสั้นอย่างฉับพลัน)ของหอบังคับการบินที่สนามบินนานาชาติภูเก็ตเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นักบินวัน-ทู-โกตัดสินใจผิดพลาดนำเครื่องลงจอดแล้วเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอย่างคาดไม่ถึง
ทั้งนี้เชื่อว่านักบินวัน-ทู-โกทราบดีว่าก่อนที่จะนำเครื่องลงจอดที่สนามบินนานาชาติภูเก็ตได้เกิดสภาพวินเชียร์ขึ้น เพราะนักบินลำก่อนหน้านี้ได้รายงานให้หอบังคับการบินภูเก็ตทราบว่าเกิดสภาพวินเชียร์ขึ้น แต่ก็สามารถนำเครื่องลงจอดได้อย่างเรียบร้อย ซึ่งทำให้หอบังคับการบินมีข้อมูลเพียงพอที่จะให้กับนักบินวัน-ทู-โกได้รับทราบก่อนว่าจะตัดสินใจนำเครื่องลงจอดหรือไม่
"ผมยังยืนยันว่านักบินทราบอยู่แล้วว่ามีวินเชียร์ ที่พูดแบบนี้เพราะเราฟังเทปที่หอบังคับการบินว่าเครื่องบินก่อนหน้านี้ลงมาเรียบร้อย และนักบินลำนั้นบอกไปที่หอบังคับการบินว่าตอนที่ลงมาเจอวินเชียร์ และก็ลงมาได้...ฤดูนี้นักบินทุกคนรู้ว่าเวลาจะลงที่ภูเก็ต หรือสนามบินอื่นๆ ที่ติดทะเลจะมีสภาพแบบนี้ หรืออาจเรียกว่าลมกระโชกได้ ซึ่งก็ไม่ได้กระโชกอยู่ตรงนี้ตลอดไป นักบินเวลาลงก็ต้องใช้ความระมัดระวัง และต้องมีประสบการณ์กับสนามบินนั้น" อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในรายการวิทยุเช้านี้
เช้านี้หนังสือพิมพ์รายงานว่า มีการตรวจพบความบกพร่องจากเครื่องตรวจวินเชียร์บางเครื่องของหอบังคับการบินภูเก็ตที่ไม่สามารถแสดงผลได้ ทำให้ขาดข้อมูลให้กับนักบินวัน-ทู-โกที่จะใช้ตัดสินใจนำเครื่องลงจอดที่สนามบินนานาชาติภูเก็ตในสภาพอากาศที่แปรปรวน
นายชัยศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่อยากให้ด่วนสรุปสาเหตุที่เกิดขึ้นของอุบัติเหตุร้ายแรงทางอากาศในครั้งนี้ แต่อยากให้รอความชัดเจนจากคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุเครื่องบินสายการบินวัน-ทู-โก ซึ่งมีนายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน รวมถึงการตรวจสอบกล่องดำที่บันทึกข้อมูลการบิน
โดยวานนี้(18 ก.ย.)กระทรวงคมนาคมได้รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่าผลตรวจสอบกล่องดำที่ส่งไปวิเคราะห์ที่สหรัฐฯ จะสามารถทราบผลได้ภายใน 10 วัน
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--