เมื่อตอนสายที่ผ่านมา เครื่องบิน แอร์บัส A380 สายการบินไทย เที่ยวบินสุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ก่อนจะมีการเปิดใช้บริการจริงเกิดอุบัติเหตุปีกเครื่องบินเฉี่ยวชนกับผนังของโรงซ่อมบำรุงเครื่องบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ต่อมา พล.อ.อ. ชลิต พุกผาสุก ประธานกรรมการ บมจ. การบินไทย (THAI) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่ถือเป็นอุบัติการณ์มากกว่า โดยชิ้นส่วนที่เสียหายเป็นอุปกรณ์ที่เพิ่มความหน่วงที่ปลายปีก คาดว่าจะใช้เวลาซ่อมแซมไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที และขณะนี้ยังไม่มีการประกาศยกเลิกเที่ยวบินแต่อย่างใด และคาดว่าจะทำการบินได้อีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้
สำหรับปีกของเครื่องบินแอร์บัส A380 นั้นมีความยาวทั้งสิ้น 79.8 เมตร ความโค้ง 33.5 องศา
พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า จากนี้ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ให้มากขึ้น พร้อมปรับปรุงโรงซ่อมแซมของบริษัทการบินไทย ให้รองรับเครื่องบินแอร์บัส A380 ที่มีขนาดใหญ่ให้ได้ โดยเฉพาะฐานล้อที่มีขนาดใหญ่กว่าเครื่องบินรุ่นอื่น เนื่องจากบริษัท การบินไทย มีแผนสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส A380 ในปี 2553 ถึง 6 ลำ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทางสนามบินสุวรรณภูมิ ระบุว่า ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการบินทดสอบของแอร์บัส A380 อาทิ การออกแบบและติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ ทางวิ่งที่กว้าง 75 เมตร และยาว 3,700 เมตร 1 เส้น และยาว 4,000 เมตรอีก 1 เส้น โดยจัดทำหลุมจอดไว้ถึง 8 หลุมจอด ประชิดอาคารที่มีสะพานเทียบเครื่องบิน (งวงช้าง) พิเศษมารอรับผู้โดยสารจำนวน 5 สะพาน ที่อาคารเทียบเครื่องบิน C, E และ G ซึ่งเป็นอาคารของผู้โดยสารระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ยังติดตั้งสายพานรับกระเป๋าที่มีความยาว 107 เมตร 1 เส้น ซึ่งรองรับกระเป๋าของผู้โดยสารที่มากับเครื่องบินนี้ได้มากถึง 4,000 ใบต่อชั่วโมง รองรับผู้โดยสารได้เที่ยวบินละประมาณ 525 คน และทางสนามบินยังได้จัดสร้างจุดเติมน้ำมันไว้บริการเติมน้ำมันด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี โทร.0-2253-5050 ต่อ 322 อีเมล์: nisarat@infoquest.co.th--