นพ.โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันแนวโน้มผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศวันนี้ (30 ธ.ค. 63) ที่มีจำนวนมากถึง 250 ราย ซึ่งมาจากจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่มากถึง 241 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้ติดเชื้อที่อยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร ระยอง และกรุงเทพฯ
โดยปัจจุบัน พื้นที่กรุงเทพฯ ได้ถูกยกระดับเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ในระดับที่ 1 ที่ต้องมีการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด หลังจากพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งมีรายงานผู้ติดเชื้อที่พบในสถานบันเทิงย่านปิ่นเกล้าเมื่อวานนี้ (29 ธ.ค.) จำนวน 22 ราย และล่าสุดในวันนี้เพิ่มขึ้นเป็น 33 รายแล้ว ทำให้กรุงเทพฯ ถือเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีความเสี่ยงที่จะมีการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้สูง โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่เดินทางไปในสถานที่ที่มีผู้คนหมู่มาก อากาศถ่ายเทไม่สะดวก และมีคนไม่สวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะสถานบันเทิงที่มีโอกาสเสี่ยงสูง ซึ่งจะใกล้เคียงกับกรณีของบ่อนการพนันใน จ.ระยอง ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ประชาชนยังคงต้องรอการประกาศมาตรการควบคุมเพิ่มเติมของผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และผุ้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ที่เตรียมประกาศออกมา เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 และภายใน 1-2 วันนี้จะมีประกาศมาตรการจากกระทรวงมหาดไทยออกมา และลงในราชกิจจานุเบกษา
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขขอให้ประชาชนทุกคนฉลองปีใหม่ในปีนี้อยู่กับครอบครัว งดการเดินทางไปในจังหวัดเสี่ยงหรือสถานที่เสี่ยง หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่มีผู้คนหมู่มาก และอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ และสแกนไทยชนะ ซึ่งเป็นแนวทางการป้องกันโควิด-19 ที่ดีที่สุด
"การฉลองปีใหม่ปีนี้คงเป็นปีพิเศษ เพราะสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 กลับมาระบาดมากขึ้น และขยายวงไปมากถึง 48 จังหวัด ตอนนี้กรุงเทพฯ ก็เป็นจังหวัดเสี่ยงที่ถูกยกระดับขึ้น ก็อยากให่ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการที่ผู้ว่าฯ ประกาศออกมา และอยากให้การฉลองปีใหม่ปีนี้อยู่กับครอบครัวจะดีที่สุด งดการเดินทาง ถ้าจำเป็นต้องเดินทาง สามารถบันทึกไทม์ไลน์การเดินทางของตัวเองได้ก็ดี หรือไม่ก็ขอให้สแกนไทยชนะ เพราะหากท่านพบการติดเชื้อขึ้นมา จะได้ติดตามสถานที่ที่ท่านไปได้ถูก และก็ยังต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอด ตอนนี้ทุกคนต้องช่วยกัน เพื่อให้หยุดการแพร่ระบาดของเชื้อ และผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ไปพร้อมกัน"นพ.โอภาส กล่าว