ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 194 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศ 172 ราย โดยเชื่อมโยง cluster สมุทรสาคร 11 ราย, เชื่อมโยง cluster ระยอง 1, มีประวัติสถานบันเทิง สถานที่ชุมชน อาชีพเสี่ยง 32 ราย แต่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 128 ราย และมาจากการค้นหาเชิงรุกในกลุ่มแรงงานต่างด้าว 9 ราย
ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (Quarantine Facilities) 13 ราย โดยเดินทางมาจากตุรกี 2 ราย ฮ่องกง 1 ราย แคนาดา 1 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย มาเลเซีย 1 ราย อินโดนีเซีย 1 ราย เกาหลีใต้ 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย รัสเซีย 1 ราย และคูเวต 1 ราย
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศ ล่าสุดอยู่ที่ 6,884 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 4,869 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มแรงงานต่างด้าว 1,392 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2,015 ราย
ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 4,240 ราย เพิ่มขึ้น 28 ราย โดยยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 2,583 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 61 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.กล่าวว่า ตัวเลขติดเชื้อในประเทศเป็นสถานการณ์ที่ยังต้องติดตามทุกวัน เมื่อวานพุ่งสูงสุด 250 ราย วันนี้ 194 ราย แต่ยังไม่น่าไว้วางใจ
"ยังไม่อยากให้นิ่งนอนใจ ตัวเลขรออยู่จำนวนพอสมควร 194 ยังสามารถบวกเพิ่ม บวกเพิ่ม"
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 51 จังหวัดแล้ว ตอนนี้เพิ่มขึ้นมาในจังหวัดหนองคาย มหาสารคาม กาญจนบุรี
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 83,060,536 ราย เสียชีวิต 1,812,050 ราย โดย 5 ประเทศที่มียอดติดเชื้อเพิ่มสูงสุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 20,216,991 ราย อินเดีย 10,267,283 ราย บราซิล 7,619,970 ราย รัสเซีย 3,131,550 ราย และ ฝรั่งเศส 2,600,498 ราย ส่วนประเทศไทย อยู่อันดับที่ 139 จาก 140 วานนี้
สำหรับประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ เกาหลีใต้ มีผู้ติดเชื้อรวมทะลุ 60,740 รายแล้ว โดยมียอดมากกว่า 10,000 คนภายในช่วง 10 วัน ซึ่งถือเป็นการติดเชื้อระลอกที่ 3 และเป็นระลอกที่รุนแรงที่สุดที่เกาหลีใต้เคยเผชิญมา ทำให้ทางการต้องประกาศมาตรการเว้นระยะห่างที่เข้มงวดมากขึ้น และอาจต้องล็อกดาวน์ทั่วประเทศหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น
นอกจากนี้ ประเทศญี่ปุ่น เผชิญการติดเชื้อระลอกใหม่ ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อ 3,852 คนในวันเดียว