กรุงเทพมหานคร (กทม.) ออกประกาศ เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 15) จากกรณียังพบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในบางพื้นที่ของกทม. เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดดังกล่าว ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 1/2564 เมื่อวานนี้ (1 ม.ค.) จึงให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคเป็นการชั่วคราว และกำหนดมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ดังนี้
1.ปิดสถานที่ ได้แก่
1.1 สถานบริการ ผับ บาร์ สถานบันเทิง และสถานประกอบการใดที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายสถานบริการ
1.2 สวนน้ำ สวนสนุก
1.3 สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็กในตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด
1.4 โต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด
1.5 สถานที่เล่นตู้เกม
1.6 ร้านเกม และร้านอินเทอร์เน็ต
1.7 สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่
1.8 สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือสถานดูแลผู้สูงอายุ (ยกเว้นที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ)
1.9 สนามมวย
1.10 โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม)
1.11 สนามม้า
1.12 สถานประกอบกิจการอาบน้ำ
1.13 สถานประกอบกิจการอาบอบนวด
1.14 สนามแข่งขันทุกประเภท
1.15 สถานที่ให้บริการห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน
1.16 สนามชนโค สนามกัดปลา หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน
1.17 สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง
1.18 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน
1.19 สถานเสริมความงาม (ไม่ได้รับอนุญาตเป็นคลินิกเวชกรรม) สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
1.20 สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนส
1.21 สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา และสถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า
1.22 สนามฝึกซ้อมมวย โรงยิม หรือค่ายมวย
1.23 สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง สเก็ต หรือโรลเลอร์เบลด หรือการละเล่นอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน
1.24 สถาบันลีลาศ หรือสอนลีลาศ
1.25 อาคารสถานที่ของโรงเรียน สถาบันกวดวิชา และสถาบันการศึกษาทุกประเภท โดยห้ามใช้เพื่อจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก เว้นแต่เป็นการดำเนินการสื่อสารแบบทางไกลหรือด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
2. สถานที่ดังต่อไปนี้ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคแนบท้ายประกาศนี้โดยเคร่งครัด
2.1 ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อ รถเข็น หาบเร่ แผงลอย ภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร ซึ่งไม่รวมถึงสถานบริการ ผับ บาร์ ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในสถานที่ดังกล่าว
2.2 ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์
2.3 ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ
2.4 ห้องประชุมในโรงแรมหรือศูนย์ประชุม
2.5 ร้านค้าปลีก/ค้าส่งขนาดย่อม ร้านค้าปลีก ค้าส่งชุมชน ตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด
2.6 ร้านค้าปลีก,ค้าส่ง หรือตลาดค้าส่งขนาดใหญ่
2.7 ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผมสำหรับบุรุษหรือสตรี ให้เปิดดำเนินการโดยจำกัดเวลา การให้บริการในร้านไม่เกินรายละสองชั่วโมงและต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน
2.8 สถานรับเลี้ยงเด็กหรือสถานดูแลผู้สูงอายุ (เฉพาะที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ)
2.9 คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม ร้านทำเล็บ
2.10 สนามกอล์ฟ และสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ
2.11 สนามกีฬา
2.12 สวนสาธารณะ ลาน - พื้นที่กิจกรรมสาธารณะ สถานที่ออกกำลังกาย สนามกีฬา ลานกีฬา
2.13 สถานที่ให้บริการดูแลรักษาสัตว์ สปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยงหรือรับฝากสัตว์
2.14 สถานที่หรือสนามออกกำลังกายในร่ม
2.15 สระว่ายน้ำสาธารณะทั้งกลางแจ้งและในร่ม
2.16 สวนพฤกษศาสตร์ สวนดอกไม้ พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ห้องสมุดสาธารณะ และหอศิลป์
2.17 สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ำในบึง
2.18 โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ
2.19 สวนสัตว์ หรือสถานที่จัดแสดงสัตว์
3. สถานที่อื่นนอกเหนือจากข้อ 2 ให้ผู้เกี่ยวข้องจัดให้มีมาตรการป้องกันโรคดังต่อไปนี้
3.1 บริการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หรือการคัดกรองอาการป่วยในระบบทางเดินหายใจ
3.2 ให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า
3.3 อำนวยความสะดวกในการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตรและจำกัด จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัด
3.4 จัดให้มีที่ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
3.5 จัดให้มีการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ที่เกี่ยวข้องก่อนการทำกิจกรรม รวมทั้งระหว่างและภายหลังการทำกิจกรรมด้วย
3.6 ให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่และเพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชัน ที่ทางราชการกำหนด
ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตาม มาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับและหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อ 2 และข้อ 3 จะถูกสั่งปิด สถานที่เป็นการชั่วคราว
กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่อออกจาก ที่พักอาศัย
กรณีประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 14) ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2563 ขัดหรือแย้งกับประกาศกรุงเทพมหานครฉบับนี้ ให้บังคับตามประกาศกรุงเทพมหานครฉบับนี้
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหาย อย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ยกเว้นข้อ 1.25 ให้มีผลถึงวันที่ 17 มกราคม 2564