โพลหอการค้าฯ ชี้ 1 ปีหลังปฏิวัติคนผิดหวังรัฐบาลแก้ ศก.-การเมือง-ไฟใต้

ข่าวทั่วไป Monday September 17, 2007 17:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางยาใจ ชูวิชา ประธานโครงการสำรวจความคิดเห็นประเด็นธุรกิจ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจการประเมินผลงาน 1 ปี ภายหลังการปฏิวัติรัฐประหารซึ่งภาคธุรกิจต่างคาดหวังให้รัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) แก้ไขปัญหาการคอรัปชั่นมากเป็นอันดับ 1 ถึง 62.68% รองลงมาเป็นปัญหาความมั่นคงของชาติ 61.99% และอันดับ 3ปัญหาเศรษฐกิจ 60.32% 
แต่ทั้งนี้ภายหลังการทำงานครบ 1 ปีพบว่าภาคธุรกิจให้คะแนนรัฐบาลและ คมช.เพียง 5.8 เท่านั้นจากคะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ, การเมือง และความไม่สงบในภาคใต้ได้คะแนนน้อยสุด ส่วนที่ได้คะแนนมากสุดคือ การแก้ปัญหาความมั่นคงของชาติ, ด้านสังคม และด้านการศึกษา
"ปัญหาที่ภาคธุรกิจต้องการให้รัฐบาลแก้ไขมากที่สุดในช่วงที่เหลือคือ แก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ รองลงมาคือ ด้านการเมือง โดยต้องจัดให้การเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด เพื่อผลดีต่อเศรษฐกิจ และอันดับ 3 คือการแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ " นางยาใจ กล่าว
ด้านนางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการสำรวจประชาชนทั่วไปในหัวข้อเดียวกัน 1,170 ตัวอย่าง พบว่า ประชาชนคาดหวังว่ารัฐบาลจะเข้ามาแก้ไขปัญหาภาคใต้สูงสุด 82.2% รองลงมาคือปัญหาด้านเศรษฐกิจ 79.4% ความมั่นคงของชาติ 78.1% การคอรัปชั่น 77.8%
แต่ผ่านไป 1 ปี ประชาชนให้คะแนนโดยรวม 6.3 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยการแก้ไขปัญหาด้านการศึกษาและด้านสังคมได้คะแนนสูงสุด ขณะที่ด้านเศรษฐกิจและปัญหาภาคใต้ได้คะแนนน้อยสุด ส่วนช่วงเวลาที่เหลือของรัฐบาลนี้ประชาชนต้องการให้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก ตามด้วยความขัดแย้งทางการเมือง ปรับปรุงด้านการศึกษา การแก้ปัญหาคอรัปชั่น และปัญหาความไม่สงบในภาคใต้
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า คะแนนที่ออกมาไม่ถึงกับสอบตก แต่ผ่านเฉียดฉิว เพราะคนยังเอาใจช่วยทั้ง คมช.และรัฐบาล ทั้งนี้เรื่องเศรษฐกิจ การเมือง และปัญหาภาคใต้ คนคาดหวังมากแต่คะแนนความพึงพอใจออกมาได้น้อยที่สุด อาจเป็นเพราะรัฐบาลระมัดระวังในการแก้ปัญหาต่างๆ มากเกินไปจนทำให้การแก้ปัญหาล่าช้าในทางปฏิบัติ ซึ่งอาจเป็นได้ว่าเป็นรัฐบาลรักษาการณ์จึงทำให้การตัดสินใจหลายเรื่องต้องคิดอย่างรอบคอบ
"หากรัฐบาลเดินหน้าทำอย่างจริงจัง คิดว่าอีก 4 เดือนที่เหลือ กฎหมายต่างๆ หรือโครงการรถไฟฟ้าน่าจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นการเตรียมงานเพื่อส่งต่อให้รัฐบาลชุดใหม่ เพราะกว่ารัฐบาลใหม่จะเริ่มงานจริงก็น่าจะไตรมาส 3 ปีหน้า หากรัฐบาลนี้ยังไม่เริ่มทำอะไร รัฐบาลใหม่ต้องเป็นผู้เริ่มต้น เท่ากับ 2 ปีที่ผ่านมารวมกับ 1 ปีหน้า ประเทศไทยไม่มีความก้าวหน้าเลย" นายธนวรรธน์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ