นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กล่าวว่า ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้พัฒนาและปรับระบบบริการทางการแพทย์วิถีใหม่ (New Normal Medical Services) เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการแพร่และรับเชื้อโควิด-19 ของผู้มารับบริการและบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน ลดความแออัด ลดระยะเวลารอคอย และลดความเหลื่อมล้ำ ได้รับบริการที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับภาวะความเจ็บป่วยที่แตกต่างกันในแต่ละราย โดยการระบาดระลอกใหม่นี้ได้กำชับสถานบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ปรับบริการทางการแพทย์วิถีใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งการรับยาทางไปรษณีย์ รับยาร้านยาใกล้บ้าน ปรึกษาแพทย์ทางไกล เป็นต้น
ปลัด สธ. กล่าวว่า การให้บริการทางการแพทย์แบบวิถีใหม่มุ่งเน้นการรักษาให้เหมาะสมเฉพาะบุคคล โดยแยกกลุ่มประเภทผู้ป่วยเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ดูแลตนเองได้ดีไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ ขอให้อยู่บ้าน ไม่ต้องมาโรงพยาบาล ใช้การจัดส่งยาให้ต่อเนื่อง กลุ่มที่ต้องการปรึกษาแพทย์ด้วยคำถามหรือปัญหาเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาล ให้บริการ Tele-medicine ผ่านระบบการสื่อสาร และกลุ่มที่มีความจำเป็นต้องมาพบแพทย์ ได้พัฒนาระบบเทคโนโลยี (Digital Solution) เป็นเครื่องมือให้แพทย์และคนไข้สามารถติดต่อพูดคุยและปรึกษากัน โดยไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาล และใช้เทคโนโลยีอื่นๆ มาใช้อำนวยความสะดวกในการบริการด้วย
สำหรับผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรังหลีกเลี่ยงการไปโรงพยาบาล โดยหากอาการทั่วไปดี ผลการตรวจล่าสุดคงที่ ไม่มีปัญหา ให้รับยาทางไปรษณีย์ รับยาร้านยาใกล้บ้าน เลื่อนนัดให้นานขึ้น หรือให้คำปรึกษาทางไกล หากเป็นผู้ป่วยที่อาการแย่ลงหรือผลตรวจล่าสุดมีปัญหา ให้มาตรวจตามนัดหรือใช้วิธีปรึกษาทางไกล แต่หากมีอาการเจ็บป่วยรุนแรงฉุกเฉินไปห้องฉุกเฉินได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่แพทย์นัดในช่วงนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงในระบบการบริการและการรักษา ขอให้ติดต่อโรงพยาบาลก่อนเข้ารับบริการ