นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร (สสจ.สมุทรสาคร) เผยความคืบหน้าการดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุก (Active Case Finding) หาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในโรงงานอุตสาหกรรมว่า ขณะนี้ผ่านไป 1 สัปดาห์สามารถดำเนินไปได้ประมาณ 50% แล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะดำเนินการให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ โดยผลการตรวจคัดกรองยังไม่พบการระบาดกลุ่มก้อนใหม่ขนาดใหญ่
เนื่องจากเป็นสถานการณ์เร่งด่วนและระยะเวลาที่จำกัดในการควบคุมไม่ให้เชื้อแพร่กระจายออกไป สสจ.สมุทรสาคร จึงได้กำหนดเป้าหมายที่จะดำเนินการตรวจโรงงานขนาดใหญ่ราว 100 แห่งที่มีแรงงานต่างด้าวเกิน 200 คนขึ้นไป จากจำนวนโรงงานทั้งหมด 11,467 แห่ง และมีแรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนไว้ 2.4 แสนคน โดยใช้วิธีการสุ่มตรวจจากกลุ่มตัวอย่าง หากพบว่ามีสัดส่วนผู้ติดเชื้อเกิน 10% ก็จะตรวจคัดกรองแรงงานต่างด้าวในโรงงานดังกล่าวทั้งหมด
"เนื่องจากมีระยะเวลาที่จำกัด เราจึงต้องใช้วิธีสแกนหาเป้าหมายที่ชัดเจนในการตรวจ ตอนนี้ตรวจไปได้ราว 50% ผลที่ได้ยังไม่เกิด 5% แสดงว่ายังไม่พบการติดเชื้อกลุ่มก่อนใหม่ เป็นการติดเชื้อที่มาจากกลุ่มเดียวกันเหมือนสะเก็ดไฟ เหลือเวลาที่ต้องทำให้อีกหนึ่งสัปดาห์" นพ.นเรศฤทธิ์ กล่าวกับ "อินโฟเควสท์"
สสจ.สมุทรสาคร กล่าวว่า ขณะเดียวกันจะมีการคัดกรองเชิงรุกในโรงงานขนาดเล็กและชุมชนด้วยรถเคลื่อนที่คู่ขนานไปพร้อมๆ กัน ซึ่งในส่วนนี้จะครอบคลุมไปถึงการตรวจคัดกรองแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายด้วย ซึ่งในแต่ละวันจะสามารถตรวจได้ราว 2,000 ราย และกำลังเร่งระดมตรวจเพิ่มขึ้นให้ได้วันละ 3,000-4,000 ราย
ทั้งนี้ สสจ.สมุทรสาคร จะรายงานผลการตรวจให้ ศบค.อย่างต่อเนื่อง โดยต้องรอผลแล็บยืนยัน 24-48 ชั่วโมง ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเหลื่อมเวลาจากที่ ศบค.แถลงข่าวราว 2-3 วัน
ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามนั้น ขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากประชาชนมากขึ้นหลังจากชี้แจงทำความเข้าใจแล้ว โดยมีความพร้อมที่จะจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 6-7 แห่ง สามารถรับผู้ป่วยได้ราว 2,000 ราย จากปัจจุบันที่มีผู้ป่วยราว 500-600 ราย
"สถานการณ์ยังอยู่ในวิสัยที่รับมือได้ โรงงานให้ความร่วมมืออย่างดี" นพ.นเรศฤทธิ์ กล่าว