รายงานข่าว แจ้งว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาต (ผบ.ตร.) พร้อมคณะ ซึ่งประกอบด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.ณัฐ สิงห์อุดม รอง ผบช.ตชด., นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก, พ.อ.ประสาน เห็นประเสริฐ ผบ.ฉก.ร.4 ได้เดินทางไปตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ อ.แม่สอด และพื้นที่ใกล้เคียงใน จ.ตาก หลังมีการเผยแพร่ข้อมูลทางโซเชี่ยลว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ยังหละหลวม โรงพยาบาลในพื้นที่ต้องรับศึกหนัก และมีเจ้าหน้าที่รัฐรับสินบนมาคอยอำนวยความสะดวกให้คนข้ามแดนไปบ่อนพม่า
พล.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาตรวจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยรวมปฏิบัติ เพื่อรับฟังปัญหาและมอบนโยบายในการปฏิบัติ อะไรที่ยังเป็นปัญหาต้องการให้หน่วยเหนือสนับสนุนก็จะได้เข้าไปช่วยเหลือ
หลังจากนั้นได้เดินทางไปตรวจจุดตรวจร่วมหลายจุด อาทิ ด่านตรวจความมั่นคงห้วยหินฝน อ.แม่สอด, จุดเสี่ยงการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองทางช่องทางธรรมชาติ บริเวณริมแม่น้ำเมย จุดตรวจแม่จะเรา อ.แม่ระมาด และรับฟังรายงานผลการปฏิบัติงานจาก ผบก.ภ.จว.ตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ณ ห้องประชุม สภ.แม่ระมาด
ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้สั่งการให้กำลังที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านตรวจร่วม ให้มีกำลังเพียงพอถ้าไม่พอต้องขอกำลังเสริมมาได้ต้องสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชม. ส่วนคนต่างด้าวที่หลบหนีไม่เข้าด่านตรวจได้สั่งการให้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วหรือจุดตรวจ จุดสกัดเคลื่อนที่เพิ่มอีก 58 จุด และได้สั่งการให้บูรณาการด้านการข่าวกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และภาคประชาชน และต้องมีการตั้งศูนย์ควบคุมสั่งการเพื่อใช้ในการเก็บรวมวรมข้อมูลจากทุกฝ่าย
"ถ้ามีรถ 1 คันผ่านมา ทั้ง 58 จุดจะต้องได้ข้อมูลตรงกัน เพราะถ้าผู้ขับขี่ให้ข้อมูลไม่เป็นความจริง เช่น บอกจะไปเชียงใหม่ แต่ไปผิดเส้นทาง จะต้องเฝ้าติดตามเป็นพิเศษ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทราบว่าท่านผู้ว่าได้จัดทำแอปตากชนะ ซึ่งก็จะมีประโยชน์ในการติดตามตัว" พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้มาตรการตรวจของแต่ละด่านจะต้องนำแนวทางของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาใช้ คือต้องตรวจสอบ และเก็บบันทึกข้อมูลทั้งคน ทั้งรถ คนที่มากับรถ กล้องจะต้องบันทึกภาพรถ และทะเบียนรถทุกคันที่ผ่าน และไม่ผ่านด่าน ได้สั่งการให้ บช.ปส.สนับสนุนเครื่องเอ็กซเรย์ ที่ด่านตรวจ รวมถึงขอความร่วมมือให้เพิ่มกล้องวงจรปิดบริเวณช่องทางธรรมชาติ เช่น ท่าเรือข้ามฟาก
ผบ.ตร.กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับว่าเรื่องการสืบสวนปราบปรามกระบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด ณ ขณะนี้หากตรวจสอบพบมีเจ้าหน้าที่รายใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านี้ ก็ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ไม่เว้นแม้แต่รายเดียว ต้องสืบสวนสอบสวนให้ถึงที่สุด ต้องดำเนินคดีให้ได้ เพราะฉะนั้นการรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นสำคัญมาก ไม่งั่นกระบวนการเหล่านี้ก็ไม่หยุด ทั้งนี้ ตนได้ตั้งคณะทำงานสืบสวนปราบปรามกระบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวฯโดย มอบให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ กิตติ์ประภัสร์ รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้า สำหรับผลการสืบสวนก็คงต้องรอให้พยานหลักฐานชัดเจนว่าไปถึงใครบ้าง