พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) บางแห่งต้องการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาใช้เองนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สามารถทำได้ เพราะเป็นเรื่องท้องถิ่น จะจัดซื้ออย่างไรต้องจัดทำรายละเอียดทั้งหมด แต่วัคซีนต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งหลายคนตั้งความหวังกับวัคซีน รัฐบาลจึงได้จัดหาวัคซีนจากหลายช่องทางที่ได้มาตรฐาน อย. เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงกับประชาชน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่วัคซีนโควิด-19 ที่เอสตร้าเซนเนก้าจะร่วมผลิตกับบริษัท สยาม ไบโอไซเอนซ์ มีผลการใช้อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ส่วนวัคซีนจากแหล่งอื่นๆ คงต้องตรวจสอบผลการใช้ต่อไป ซึ่งวันหน้าการผลิตวัคซีนจะมีมากขึ้น แต่สำคัญต้องดูประเทศที่ผลิตว่าได้รับการรับรองคุณภาพหรือไม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจสั่งซื้อ
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในประเทศไทยวันนี้มีผู้ติดเชื้อร้อยกว่าคน โดยยอดผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นและลดลงแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ส่วนหนึ่งที่จะทำให้ตัวเลขลดลงคือประชาชนให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรองและลดการเดินทาง ซึ่งจะทำให้การแพร่ระบาดคลี่คลายโดยเร็ว
"สิ่งสำคัญคือต้องร่วมมือกัน ไม่ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการใดๆ หากไม่ร่วมมือก็ไปต่อไม่ได้ เหมือนกฎหมายที่ทุกคนต้องเคารพ ถ้าไม่เคารพกฎหมายก็จะเกิดปัญหายุ่งยากตามมา และสุดท้ายทุกคนก็จะมาโทษที่รัฐบาล" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลปฎิบัติตามกฎหมายทุกฉบับที่มีบังคับใช้อยู่ ไม่ได้เลือกมาพูดเพียงบางส่วนเพื่อทำให้เกิดความสับสน ดังนั้นขอให้คิดอยู่ในกรอบ และรัฐบาลทำเต็มที่ในการแก้ปัญหาโควิด-19