นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ว่า ได้พยายามตรวจค้นหาเชิงรุกตลอดเวลา ซึ่งสถานการณ์ภายใต้การควบคุมการติดเชื้อทุกกลุ่มก้อนยังสามารถติดตามได้ว่าต้นตอมาจากไหน และยังสามารถสอบสวนโรคและติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดได้ทั้งหมด โดยมีความพร้อมทั้งการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ตลอดจนเวชภัณฑ์ เครื่องมือ และอุปกรณ์รักษา ขอให้ทุกคนมั่นใจได้ แต่ประชาชนยังต้องระมัดระวังตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์
ส่วนการลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมที่ อ.แม่สอด จ.ตาก นายอนุทิน กล่าวว่า ไปดูความพร้อมการทำงานของเจ้าหน้าที่แล้วมีความมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่มีความตั้งใจ และมีการวางแผนที่ดี เพราะ อ.แม่สอด ถือเป็นด่านสำคัญที่แรงงานต่างด้าว และคนไทยที่ไปทำงานในเมียนมาจะเดินทางเข้ามา และได้ไปเยี่ยมแรงงานไทยที่เดินทางกลับเข้ามาจากเมียนมาแล้วติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแม่สอด มีห้องความดันลบแยกรักษาผู้ป่วยเป็นอย่างดี พร้อมระบุว่า ทุกคนมีสิทธิเดินทางเข้ามาได้ แต่ขอความร่วมมือให้เดินทางเข้ามาอย่างถูกต้อง ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกกักตัว 14 วัน ดีกว่าหลบหนีแล้วนำเชื้อไปแพร่ให้กับคนอื่น ซึ่งประสิทธิภาพในการคัดกรอง หาสถานที่ State Quarantine ที่แม่สอดมีความพร้อมเป็นอย่างมาก
นายอนุทิน ยืนยันว่า วัคซีนที่มีอยู่ทั่วโลกมีการพิสูจน์และยืนยันแล้วว่าวัคซีนทุกตัวจะไม่ทำให้โรคโควิด-19 พัฒนาไปสู่อาการที่รุนแรง ไม่ถึงขั้นต้องเสียชีวิต ผู้ได้รับวัคซีนแล้วจะสามารถรักษาได้ ดังนั้นทางการแพทย์ยังมีความมั่นใจว่า จะต้องมุ่งเน้นการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้มากที่สุด และช่วงบ่ายวันนี้ นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 จะนำความคืบหน้าการจัดระเบียบแบ่งกลุ่ม จัดลำดับการฉีดวัคซีน เข้ารายงานนายกรัฐมนตรีด้วย
นายอนุทิน กล่าวถึงการหารือกับนายอะศิม อิฟติคัร อะห์มัด เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำประเทศไทยว่า ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนด้านสาธารณสุข และการท่องเที่ยว ซึ่งทางปากีสถานยินดีจะให้ Visa On Arrival สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่จะเดินทางไปเที่ยวปากีสถาน หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย