นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ตอบกระทู้ถามสดในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงมาตรการแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า รัฐบาลสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เรียบร้อย โดยได้ติดตามกลุ่มเสี่ยงสูงและเสี่ยงกลางครบ 100% โดยใน 5 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงและเข้มข้นนั้นได้มีการตรวจคัดกรองเชิงรุก หากพบในพื้นที่ที่มีการกระจายของโรค เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะติดตามและสอบสวนโรคให้ได้ภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้แพร่กระจายต่อไปกลายเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์
"ผมมั่นใจมาตรการที่รัฐบาลเดินหน้าทำได้สำเร็จในพื้นที่ที่เป็นต้นตอการระบาดใน จ.สมุทรสาคร ที่พบผู้ติดเชื้อ ทั้งเสี่ยงสูง และเสี่ยงต่ำนั้นขึ้นอยู่กับการตรวจเชิงรุกและต้องทำให้มากที่สุด เพราะเป็นผู้ป่วยไม่มีอาการ ซึ่งมาตรการของรัฐบาลทำถูกต้องและควบคุมได้ในที่สุด" นายสาธิต กล่าว
นายสาธิต กล่าวว่า การจัดการปัญหาบ่อนการพนันและแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นสาเหตุของการแพร่เชื้อระลอกสองนั้น ไม่สามารถตอบแทนได้ เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงดำเนินการ ส่วนเงินเยียวยา 3,500 บาท/คน/เดือนนั้นต้องสอบถามกระทรวงการคลัง ซึ่งรัฐบาลมีเจตนาดีที่จะเยียวยาคลายเดือดร้อนของประชาชนนส่วนการกักตัวและมาตรการแต่ละจังหวัดอยู่ภายใต้การควบคุมโรคและการดำเนินงานเศรษฐกิจ
ส่วนมาตรการในการให้ความช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 นั้นจะต้องพิจารณาทุกกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนในจังหวัดท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบก็มีมาตรการเยียวยาเป็นพิเศษ เช่น ใช้โรงแรมที่ต้องพักกิจการมาเป็นสถานที่กับตัวทางเลือกของผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ เพื่อพยุงกิจการให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ และยืนยันว่าทุกมาตรการจะพิจารณาไปควบคู่กันกับจังหวัดอื่นๆ ด้วย
รมช.สาธารณสุข กล่าวถึงการนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า สัญญาที่บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ทำร่วมกับบริษัท แอสตร้า เซนเนก้า เชื่อว่าหากเอกสารใดที่เป็นประโยชน์กับสาธารณชน สถาบันวิจัยวัคซีนแห่งชาติสามารถนำเปิดเผยได้ผ่านทางเว็บไซต์ของสถาบันวิจัย ฯ เว้นแต่เอกสารบางอย่างที่บริษัทคู่สัญญาต้องการปกปิด ขอให้เป็นความลับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะต้องเก็บเป็นความลับขั้นสูงสุดเช่นกัน
อย่างไรก็ตามวัคซีนเป็นแค่การช่วยชะลอการแพร่ระบาดของโรคเท่านั้น ขอให้ทุกคนในประเทศต้องช่วยกันควบคุมการติดเชื้อ ควบคุมผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งประเทศให้น้อยลงที่สุดด้วย