รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ แกนนำกลุ่มราษฎร พร้อมประชาชนส่วนหนึ่ง ได้เดินทางมายื่นหนังสือ เพื่อต้องการให้ประชาชนได้รับการเยียวยาตามมาตรการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จากรัฐบาลที่เท่าเทียมกัน แต่กระทรวงการคลังปิดประตูรั้วทางเข้าและออก ทำให้แกนนำต้องอ่านข้อเรียกร้องดังกล่าว ที่บริเวณหน้าประตู 4 ก่อนประกาศจะนำจดหมายเข้าไปยื่นต่อรมว.คลังภายใน แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดประตูให้
จดหมายเปิดผนึกจากราษฎรถึง รมว.คลัง ระบุว่า เนื่องด้วยปัจจุบันได้เกิดการแพระบาตของเชื้ไวรัสโควิด-19 ระลอกสองในประเทศ ก่อให้เกิดสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง ส่งผลให้พี่น้องประชาชนต้องประสบความทุกข์ยาก แต่รัฐบาลกลับไม่สามารถช่วยเหลือเยียวยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนจำนวนมากเข้าไม่ถึงการเยียวยาจากโครงการคนละครึ่งเฟสสอง ทั้งจากที่ไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และต้องแย่งชิงกันลงทะเบียนรับสิทธิจนสิทธิหมดลงในเวลาไม่ถึงห้านาที เป็นข้อตอกย้ำว่ามาตรการเยียวยาประชาชนของรัฐบาลลัมเหลวโดย
ดังนั้น ราษภูรจึงขอสนอแนะให้พิจารณาตัดลดงบประมาณที่สูงเกินความจำเป็น ไม่เหมาะสมแก่เวลา หรือไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะมาใช้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนดังต่อไปนี้
1. เยียวยาประชาชนอย่างถ้วนหน้าเท่าเทียม โดยให้รัฐเยียวยาประชาชนผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปด้วยเงินรายได้พื้นฐานถ้วนหน้า เดือนละ 3,500 บาท เป็นเวลา 3 เดือน โคยมาตรการดังกล่าวจะใช้งบประมาณ 525,000 ล้านบาท หากตัดลดและโยกย้ายงบที่ไม่จำเป็นข้างต้นรวมกับงบประมาณที่คงเหลือจาก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรงการคลังกู้เงิน ฯ ก็จะมีบประมาณเพียงพอเยียวยาประชาชนได้อย่างถ้วนหน้า
2. นำเข้าและกระจายวัคซีนโควิต-19 แก่ทุกคนอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม และทันท่วงที และเป็นการควบคุมการแพร่กระจายของโรคและเสริมสร้างความมั่นใจและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
3. ลตหรือช่วยอุดหนุนค่ำครองชีพของประชาชน ทั้งค่าสาธารณูปโภค ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าโดยสาร อย่างน้อยเป็นวลา 3 เดือน และสำหรับนักเรียน นักศึกษาจะต้องมีการลดค่าเล่าเรียน พร้อมทั้งช่วยอุดหนุนคำใช้จ่ายที่เกิดจากการเรียนออนไลน์ด้วย