(เพิ่มเติม1) ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 836 ราย ในปท.39-ตรวจเชิงรุก 793-ตปท.4,ตาย 1

ข่าวทั่วไป Monday February 1, 2021 13:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

(เพิ่มเติม1) ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 836 ราย ในปท.39-ตรวจเชิงรุก 793-ตปท.4,ตาย 1

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 836 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 39 ราย โดยมาจากสมุทรสาคร 32 ราย กรุงเทพฯ 5 ราย ราชบุรี 2 ราย, จากค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 793 ราย จากสมุทรสาคร 782 ราย มหาสารคาม 6 ราย กรุงเทพฯ 5 ราย ,ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ทั้งหมด 4 ราย โดยเดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา 1 ราย, เบลเยี่ยม 1 ราย, มาเลเซีย 1 ราย และสหราชอาณาจักร 1 ราย

(เพิ่มเติม1) ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 836 ราย ในปท.39-ตรวจเชิงรุก 793-ตปท.4,ตาย 1

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 19,618 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 7,078 ราย และการตรวจคัดกรองเชิงรุก 10,077 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2,463 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 12,514 ราย เพิ่มขึ้น 899 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม 78 ราย โดยเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้เสียชีวิต 1 รายที่เพิ่มขึ้นวันนี้ คาดว่าจะเป็นการรายงานข้อมูลจากศูนย์โควิด-19 จ.สมุทรสาคร ณ วันที่ 31 ม.ค.64 เวลา 24.00 น. ซึ่งมีผู้เสียชีวิตเป็นคนไทยเพิ่มขึ้น 1 ราย โดย ศบค.รายงานตัวเลข +1 ไว้ในตารางสรุปภาพรวมสถานการณ์โควิดทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย แต่ยังไม่ได้บวกเพิ่มไปในตารางเฉพาะสถานการณ์ภายในประเทศ

พญ. อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับการคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันยังคงเพิ่มสูงขึ้นในระดับ 700-800 รายนั้น ในเป้าหมายของการลงพื้นที่ตรวจคัดกรองเชิงรุกให้ได้ 1 หมื่นรายต่อวัน คาดว่าในภาพรวมจะพบผู้ติดเชื้อราว 7% แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกพื้นที่จะต้องมียอดผู้ติดเชื้อในอัตรา 7% เท่ากันหมด ซึ่งบางพื้นที่อาจมีผู้ติดเชื้อเพียง 1-2% เท่านั้น การพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากจะอยู่ในพื้นที่ไข่แดงที่เป็นสีแดงเข้มของ จ.สมุทรสาคร คือ ต.ท่าทราย และ ต.คลองมะเดื่อ

"ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ลงตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่ไข่แดง สีแดงเลือดหมู ต.ท่าทราย และ ต.คลองมะเดื่อ ซึ่งได้คัดกรองในโรงงานหลายแห่งมีพนักงานมากกว่า 1 หมื่นราย ซึ่งใน 2 ตำบลนี้มีการรายงานผู้ติดเชื้อจากการคัดกรองที่อาจจะมากถึง 40-50% แต่ถ้ารวมทั้งจังหวัด ตัวเลขยังไม่เกิน 7% แต่การคัดกรองจะยังคงทำต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ และคาดว่าตัวเลขจะเริ่มเบาบางลง" พญ.อภิสมัยกล่าว

พร้อมระบุว่า สิ่งสำคัญคือมาตรการซีลหรือจำกัดวงในพื้นที่ที่เป็นไข่แดงหรือมีการติดเชื้อในอัตราสูง โดยต้องดูแลคนกลุ่มนี้ให้อยู่ในพื้นที่อย่างเข้มงวด ไม่ให้เดินทางเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ก่อนได้รับอนุญาต

"ล่าสุดได้มีคำสั่งออกมาแล้วว่า หากจะมีการเคลื่อนย้ายแรงงาน ต้องไม่ให้กระทบต่อภาคเศรษฐกิจ จะต้องขออนุญาตหน่วยงานควบคุมโรคติดต่อของจังหวัดนั้นๆ ด้วย ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแต่ จ.สมุทรสาครเท่านั้น แต่เป็นนโยบายที่ใช้ร่วมกันทุกพื้นที่ และตำรวจ ทหารก็ตั้งจุดตรวจคัดกรอง ไม่ให้พื้นที่ไข่แดงมีคนเดินทางสัญจรและแพร่กระจายเชื้อ สิ่งสำคัญคือความร่วมมือทุกคน ต้องงดเว้นการเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ ถ้าจำเป็นจะต้องเดินทาง ก็ต้องทำให้ถูกต้องตามมาตรการของรัฐ" พญ.อภิสมัยระบุ

สำหรับการตรวจค้นหาเชิงรุกในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการรายงานผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องนั้น ได้มีการตรวจค้นหาเชิงรุกในเขตภาษีเจริญ, บางบอน, บางขุนเทียน, หนองแขม, บางแค และจอมทอง รวมทั้งสิ้น 10,023 ราย จาก 59 โรงงาน พบว่ามีผู้ติดเชื้อรวม 45 ราย คิดเป็น 0.45% เท่านั้น โดยผู้ติดเชื้อพบมากสุดที่เขตภาษีเจริญ รองลงมา คือเขตบางขุนเทียน

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ยังได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ตลาดสด เพราะแม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการแล้วก็ตาม แต่ยังต้องการให้ผู้ประกอบการกำหนดมาตรการสูงสุด เรียกผู้ค้ามาหารือเพื่อชี้แจงและสร้างความเข้าใจต่อมาตรการที่ ศบค.ได้มีออกมา โดยกำชับการรักษาความสะอาดในพื้นที่ให้บริการ และมีการคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ เข้มงวดในการสแกนแอปฯ ไทยชนะ แม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการแล้วก็ตาม แต่ทุกคนยังจำเป็นต้องรับผิดชอบตัวเองและต่อส่วนรวมด้วย ขณะเดียวกันต้องขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยเป็นกระบอกเสียง หากพบเห็นสถานที่ใดยังมีการปฏิบัติที่หละหลวมให้รายงานเข้ามาได้ที่ ศบค.

"เรายังไม่สามารถทำให้การติดเชื้อเป็นศูนย์ แต่เราต้องการการคัดกรองที่เจอผู้ติดเชื้อโดยเร็ว ถ้าพบเร็ว รายงานเร็ว ทีมสอบสวนโรคจะเข้าไปทำงานทันที และต้องไม่มีการปกปิดไทม์ไลน์ จะทำให้เกิดการคัดกรองผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งเสี่ยงสูงเสี่ยงต่ำ นำไปสู่การรักษาที่เหมาะสม และจำกัดวงการแพร่กระจาย" พญ.อภิสมัยระบุ

ส่วนความกังวลของผู้ปกครองต่อการเปิดการเรียนการสอน ซึ่งเริ่มวันที่ 1 ก.พ.เป็นวันแรก ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังพบการระบาดเป็นจำนวนมากอยู่นั้น พญ.อภิสมัย กล่าวว่า นโยบายที่สำคัญของ ศบค.ที่เน้นย้ำ คือ การจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน คือมีทั้งรูปแบบการมาเรียนที่สถานศึกษา หรือการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ที่บ้านคู่ขนานกันไป ซึ่งเป็นทางเลือกให้กับผู้ปกครองที่มีความพร้อมจะทำได้ และการเรียนออนไลน์จะไม่ถือว่าเป็นการขาดเรียนแต่อย่างใด

สิ่งสำคัญ คือ ต้องขอความร่วมมือจากทั้งผู้ปกครองและสถานศึกษาด้วย กล่าวคือ ในส่วนของผู้ปกครองหากจะให้บุตรหลานไปเรียนที่โรงเรียน ก่อนออกจากบ้านควรตรวจวัดอุณหภูมิ หากพบว่ามีไข้ ไม่ควรให้ไปโรงเรียน ส่วนที่โรงเรียนต้องมีมาตรการคัดกรองเช่นกัน ถ้าพบว่าเด็กมีไข้ควรแจ้งผู้ปกครองแล้วให้กลับบ้าน ซึ่งจะทำให้การแพร่กระจายของโรคจำกัดอยู่ในวงเล็กและสามารถควบคุมได้

"แม้โรงเรียนจะเปิดแล้ว แต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการที่เข้มงวด...หากผ่อนคลายมาตรการแล้วพวกเราไม่ร่วมมือ เกิดมีคลัสเตอร์ใหม่ๆ ที่แพร่กระจายในวงกว้าง ศบค.ก็อาจต้องปรับมาตรการใหม่ตามข้อมูลหลักฐานที่เกิดขึ้น จากวันนี้ไปมาตรการผ่อนคลายได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่มาตรการควบคุมโรคยังต้องตั้งการ์ดสูง 100% เพื่อให้ตัวท่านปลอดภัย บุตรหลาน คนในครอบครัวของท่านปลอดภัย และคนในชุมชนปลอดภัย" ผู้ช่วยโฆษก ศบค.ระบุ

ส่วนสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดจนถึงวันนี้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมทั้งสิ้น 103,523,190 ราย เสียชีวิตแล้ว 2,237,720 ราย โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 26,767,229 ราย อันดับสอง อินเดีย 10,758,619 ราย อันดับสาม บราซิล 9,204,731 ราย อันดับสี่ รัสเซีย 3,850,439 ราย และอันดับห้า สหราชอาณาจักร 3,817,176 ราย โดยประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 116


แท็ก โควิด-19   ศบค.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ